นายไมค์ ปอมเปโอ ขึ้นแถลงการณ์ครั้งแรกนับตั้งแต่รับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสสหรัฐฯเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ประกาศเตือนอิหร่านว่าจะต้องเจอกับการคว่ำบาตรครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ หลังจากที่สหรัฐฯได้ถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน และยังเตือนไปยังบริษัทเอกชนของยุโรปให้ระมัดระวังการทำธุรกิจกับอิหร่านเพราะจะไม่สามารถทำธุรกิจกับสหรัฐฯได้ โดยสหรัฐฯจะใช้มาตรการกดดันด้านการเงินกับรัฐบาลอิหร่านอย่างเข้มงวด จนกว่าผู้นำของอิหร่านจะยอมยุตินโยบายที่เป็นภัยต่อประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการพัฒนาขีปนาวุธหรือการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศต่างๆ เช่น เยเมนและซีเรีย นายปอมเปโอยังได้กล่าวหาว่ารัฐบาลอิหร่านเป็นประเทศอันดับ 1 ที่สนับสนุนการก่อการร้ายด้วย
นายฮัสซัน โรฮานี ประธานาธิบดีอิหร่านตอบโต้คำขู่ของรัฐบาลสหรัฐฯทันที โดยออกแถลงการณ์ว่าสหรัฐฯไม่มีหน้าที่ตัดสินใจแทนอิหร่านและประเทศอื่นๆบนโลก และตอนนี้ก็ไม่มีประเทศไหนที่ยอมรับการตัดสินใจของสหรัฐฯอีกต่อไปแล้ว ด้านนายจาวาด ซารีฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอิหร่านก็ประณามการประกาศของรัฐบาลสหรัฐฯ และชี้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯกำลังเป็นนักโทษของนโยบายที่ล้มเหลวของตัวเอง
นายซารีฟบอกว่าอิหร่านกำลังทำงานร่วมกับประเทศอื่นๆที่ลงนามในข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ด้านรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหภาพยุโรปก็ยืนยันว่าสหภาพยุโรปจะยังปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านต่อไปตราบใดที่อิหร่านยังคงปฏิบัติตามข้อตกลงเช่นกัน
อิหร่านเป็นประเทศส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ของโลก ซึ่งการคว่ำบาตรอิหร่านจะส่งผลต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก อย่างไรก็ตาม การค่ำบาตรอิหร่านจะยังคงไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้ เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหลายเดือนในการดำเนินการ
ภาพ: AFP