นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า กรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติตั้ง นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ เป็นผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งที่ นายภคพงศ์ มีประเด็นถูกตรวจสอบใน 2 กรณี คือ กรณีช่วยเหลือ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้รับเหมาสัญญาโครงการรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงินส่วนต่อขยาย ช่วงสนามไชย-ท่าพระ เพื่อเปลี่ยนแปลงงานให้กับผู้รับเหมา ทำให้ รฟม.ต้องเสียเงินเพิ่มอีก 290 ล้านบาท ทั้งที่กรณีนี้ สตง.ทำหนังสือถึง รฟม. 2 ครั้ง ให้มีการสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และรักษาการผู้ว่า รฟม.ในขณะนั้นคือนายรณชิต แย้มสะอาด แต่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ผลสรุปว่ามีความผิดจริง จึงตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงในวันที่ 15 ม.ค. 2558

แต่่ต่อมาในวันที่ 28 ม.ค. 2558 ที่ประชุมบอร์ดมีมติให้ชะลอการทำหน้าที่ของกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงซ้อนขึ้นมาหนึ่งชุด ทั้งที่ไม่ใช่อำนาจของบอร์ด โดยไม่ยอมรับผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรรมการชุดที่รักษาการผู้ว่า รฟม. แต่งตั้งขึ้น กระทั่งต่อมามีมติยกเลิกกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ที่รักษาการผู้ว่า รฟม.ตั้งขึ้น

พร้อมกับ มีมติตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนายรณชิต รักษาการผู้ว่า รฟม. และปลดในวันเดียวกัน แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติเกี่ยวกับกระบวนการตรวจสอบนายภคพงศ์ ก่อนที่จะนำไปสู่การแต่งตั้งเป็นผู้ว่า รฟม.

ส่วนอีกกรณี คือมีการแก้ไขสัญญาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก คือช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี เอื้อประโยชน์ใหักับบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการนี้ มีสิทธิเรียกร้องเงินเพิ่ม กรณีที่ รฟม.ไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ได้ตามกำหนดในสัญญา ซึ่งขัดกับเอกสารประกวดราคาที่กำหนดไว้แต่แรกว่าผู้รับเหมาจะได้ขยายเวลาก่อสร้างเท่านั้น แต่ไม่มีสิทธิเรียกร้องเงินเพิ่มจาก รฟม. และยังขัดแย้งกับความเห็นของอัยการสูงสุดที่ รฟม.ได้สอบถามไปด้วย

(วิลาศ จันทรพิทักษ์ อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์) 

"แม้ขณะนี้จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมติ ครม.ที่แต่งตั้งนายภคพงศ์ได้ แต่ตนจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดยื่นต่อคณะกรรรมการ ป.ป.ช.และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. หลังจากมีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ให้ตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องด้วย" นายวิลาศ กล่าว

'ภคพงศ์' ยันเรื่องเก่า พร้อมชี้แจงหากถูกเรียกสอบ

ด้านนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ว่าที่ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยกับ 'วอยซ์ ออนไลน์' ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเก่า และจบไปนานแล้ว ตั้งแต่ยุคก่อนๆ และหากนายวิลาศ จะนำเรื่องไปยื่นต่อ ป.ป.ช. อีกครั้ง ตนก็มีเอกสารหลักฐานยืนยันชี้แจง

"ผมคงไม่ตอบโต้อะไร เพราะเรื่องมันจบไปแล้ว และหากคุณวิลาศจะไปยื่น ป.ป.ช. ผมก็พร้อมนำเอกสารต่างๆ ไปชี้แจง" นายภคพงศ์ กล่าว

ทั้งนี้ มติ ครม. เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอแต่งตั้งนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ รฟม. โดยให้ได้รับค่าตอบแทนคงที่ในอัตราเดือนละ 360,000 บาท รวมทั้งค่าตอบแทนพิเศษประจำปี และสิทธิประโยชน์อื่นที่ผู้รับจ้างจะได้รับตามที่กระทรวงการคลังเห็นชอบแล้ว และให้มีผลตั้งแต่วันที่กำหนดในสัญญาจ้าง

กว่า 'ภคพงศ์' จะได้นั่ง 'ผู้ว่า รฟม.'

อย่างไรก็ตาม ที่่ผ่านมา รฟม.ได้เริ่มกระบวนการสรรหาผู้ว่าการ รฟม. คนใหม่ โดยประกาศรับสมัครผู้เข้ารับการสรรหาตั้งแต่วันที่ 7-31 ก.ค. 2560 และมีผู้สมัครทั้งหมด 6 ราย ได้แก่ 1.นายรณชิต แย้มสอาด ที่ปรึกษา รฟม. 2.นายกฤต ธนิศราพงศ์ 3.นายธีรพันธ์ เตชะศิรินุกูล ที่ปรึกษา รฟม. 4.นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ 5.นายศราวุฒิ ศรีศกุน อดีตผู้อำนวยการสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และ 6.นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล อดีตผู้ว่าการ รฟม.

ผลปรากฏว่านายภคพงศ์ เป็นผู้ชนะการสรรหา โดยคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.ที่มีนายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย เป็นประธาน ได้มีมติเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2560 เห็นชอบผลการสรรหา ตามที่คณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการ รฟม. ที่มี นายยุทธนา หยิมการุณ เป็นประธาน เสนอ

แต่การสรรหาได้เกิดความยืดเยื้ออย่างต่อเนื่อง จนมีกระแสข่าวว่ากระทรวงคมนาคมอาจพิจารณาแนวทางการสรรหาใหม่ เพราะมีการร้องเรียนเรื่องการทำงานของนายภคพงศ์ เช่น การเปลี่ยนแปลงงานในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายช่วงสนามไชย-ท่าพระ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รวมทั้งถูกร้องเรียนเรื่องการปรับแก้สัญญา ซึ่งขัดกับเงื่อนไขประกวดราคา (TOR) ที่กำหนดไว้ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ทำให้การทำงานของ รฟม. ในการพิจารณาโครงต่างๆ เกิดความล่าช้า

(ภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ว่าที่ผู้ว่า รฟม.)