พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เพื่อรองรับการจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (e-Business) ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการให้บริการในต่างประเทศ ที่ทำการค้าขายสินค้าแบบอีคอมเมิร์ซ สินค้าออนไลน์
โดยผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในต่างประเทศมี 2 แบบ คือ 1.เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่นำมาขายสินค้าในประเทศไทย และ 2.เป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม เช่น Google Amazon
"กฎหมายนี้กำหนดว่าบริษัทที่เป็นเจ้าของสินค้าและเจ้าของแพลตฟอร์ม ต้องมาจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศไทยและตั้งบริษัทตัวแทนในประเทศไทยเพื่อจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศ ซึ่งเป็นไปตามหลักสากล ครม.จึงอนุมัติในหลักการ เพื่อพัฒนาต่อในเรื่องของรายละเอียด แต่ รมว.คลังบอกว่า ยังมีปัญหาเชิงเทคนิคอยู่ เพราะบริษัทต่างประเทศแม้จะมีกฎหมาย แต่เราไปบังคับเขาค่อนข้างยาก เพราะเขาอยู่ในต่างประเทศ แต่ปัญหานี้ไม่ได้เกิดกับประเทศไทยประเทศเดียว ทุกประเทศเกิดปัญหาแบบนี้เหมือนกันทั้งสิ้น" พล.ท.สรรเสริญกล่าว
ขณะที่ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กฎหมายนี้เกิดขึ้นเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบการขายสินค้าในประเทศ โดยสาระสำคัญได้วางหลักเกณฑ์จัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ แวตจากผู้ประกอบการที่อยู่นอกประเทศ ทั้งผู้ที่จำหน่ายสินค้าและผู้ให้บริการดิจิตอลแพลตฟอร์ม หรือตัวกลางที่เป็นช่องทางทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น กูเกิล หรืออะเมซอน เป็นต้น เพื่อให้การจัดเก็บ VAT มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมระหว่างผู้ประกอบการในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งนี้ ครม.มีมติอนุมัติและรับทราบต่อร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (e-Business) ในต่างประเทศ) ดังนี้
1) อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (e-Business) ในต่างประเทศ) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
2) รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรอง ซึ่งต้องออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
3) ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
4) ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรับไปพิจารณากำหนดให้ผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (e-Business) ในต่างประเทศที่ได้ให้บริการแก่ผู้รับบริการในประเทศไทยต้องมาตั้งสถานประกอบการในประเทศไทย หรือมีตัวแทนในการประกอบกิจการในประเทศไทยต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. คือ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :