นายเปาโล ดูแตร์เต วัย 42 ปี ลูกชายคนโตของประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ออกแถลงการณ์ลงวันที่ 25 ธันวาคม ประกาศลาออกจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีเมืองดาเวาอย่างเป็นทางการ โดยระบุว่าเขาต้องการรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นในชีวิต ซึ่งสื่อของฟิลิปปินส์ เดอะฟิลสตาร์ ระบุว่าเกิดจากกรณีที่นายเปาโลเผยแพร่ถ้อยคำรุนแรงตำหนินางสาวอิซาเบล ดูแตร์เต ลูกสาวของตนเอง แต่ใช้เฟซบุ๊กที่เป็นทางการของสำนักงานนายกเทศมนตรีดาเวา ทำให้เขาและลูกสาวถูกสื่อวิจารณ์ว่าทำตัวไม่เหมาะสม
ส่วนโฆษกของประธานาธิบดีดูแตร์เตระบุว่า ผู้นำฟิลิปปินส์ได้บอกให้ลูกชายของเขาตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง และต่อจากนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของประชาชนที่จะตัดสินใจว่ายอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ ส่วนเรื่องราวนอกเหนือจากนี้จะเป็นการปรึกษาหารือกันภายในครอบครัว
สื่อฟิลิปปินส์รายงานว่า สาเหตุที่นายเปาโลตำหนิลูกสาวของตัวเองผ่านสื่อออนไลน์ เป็นผลจากที่อิซาเบลถ่ายภาพแฟชั่นส่วนตัวในทำเนียบประธานาธิบดีที่กรุงมะนิลา ทั้งยังนำภาพดังกล่าวไปเผยแพร่ผ่าน 'อินสตาแกรม' เมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา เนื่องในวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 18 ปีของตัวเอง ทำให้ครอบครัวดูแตร์เตถูกสื่อฟิลิปปินส์และประชาชนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือยไม่ต่างจากอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส และภรรยา ซึ่งถูกประชาชนเดินขบวนขับไล่ เนื่องจากไม่สนใจแก้ปัญหาชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนจำนวนมากที่ยังยากจน
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้อิซาเบลโต้แย้งผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยยืนยันว่าเธอทำหนังสือขออนุญาตใช้สถานที่อย่างเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว แต่ผู้ใช้สื่อออนไลน์จำนวนมากก็ยังไม่พอใจ เพราะนอกจากจะเป็นการแสดงท่าทีไม่สนใจประชาชน ยังเป็นการไม่คำนึงถึงกาลเทศะ เนื่องจากชาวเมืองมาราวีที่ถูกกลุ่มติดอาวุธมาอูเตบุกยึดในสมัยของประธานาธิบดีดูแตร์เตดำรงตำแหน่ง ยังต้องเผชิญกับภาวะไร้ที่อยู่อาศัยและไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลด้านการฟื้นฟูเยียวยา และนายเปาโล ดูแตร์เต เป็นอีกคนหนึ่งที่ตำหนิอิซาเบลอย่างรุนแรง แต่กลับใช้เฟซบุ๊กสำนักงานนายกเทศมนตรีดาเวาในการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดรุนแรง เพราะทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นในวุฒิภาวะของรองนายกเทศมนตรี
ด้านนางซารา ดูแตร์เต-การ์ปิโอ วัย 39 ปี น้องสาวของนายเปาโล ผู้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองดาเวา แถลงว่าขณะนี้คำร้องขอลาออกจากตำแหน่งของนายเปาโลยังไม่ได้ผ่านการพิจารณาอนุมัติ แต่ยังไม่ระบุว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายเปาโลตกเป็นข่าวอื้อฉาวในฟิลิปปินส์ เพราะเขาถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบขนยาเสพติดจากจีนเข้ามาในประเทศ ซึ่งเป็นการซัดทอดความผิดจากนายหน้าค้ายาเสพติดรายหนึ่งซึ่งถูกจับกุมที่ดาเวา แต่เปาโลปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาโดยไม่ยอมเปิดเผยรอยสักด้านหลังให้แก่คณะกรรมการไต่สวนของวุฒิสภาฟิลิปปินส์ดู แม้ว่านายหน้าค้ายาเสพติดจะให้การว่ารอยสักดังกล่าวเป็นหลักฐานบ่งชี้ว่านายเปาโลเกี่ยวข้องกับการลอบนำเข้ายาเสพติดก็ตาม
ตระกูลดูแตร์เตเป็นครอบครัวที่มีอิทธิพลทางการเมืองทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่นมานานหลายสิบปี และเมื่อนายโรดริโก ดูแตร์เต เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปีที่แล้วก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการใช้กำลังรุนแรงและอำนาจทางกฎหมายเกินกว่าเหตุ และการประกาศสงครามกวาดล้างยาเสพติดภายในประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 7,000 คน ทั้งยังถูกต่อต้านอย่างหนักจากองค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ แต่รัฐบาลดูแตร์เตกลับตัดงบประมาณของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติลงจากเดิม 649 ล้านเปโซ หรือประมาณ 422 ล้านบาท เหลือเพียง 1,000 เปโซ (ประมาณ 650 บาท)