ไม่พบผลการค้นหา
ญาติปู่คออี้-ชาวบ้าน รับสินไหมทดแทนกรณีศาลปกครองสูงสุด พิพากษาให้กรมอุทยานฯ จ่ายค่าสินไหมรายละประมาณ 50,000 บาท คดีเผาทรัพย์สินเมื่อปี 2554 ขณะที่การขอกลับคืนพื้นที่ ยังไม่มีการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

จากกรณีศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งพิพากษาให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และเจ้าหน้าที่ 2 คน ที่ถูกฟ้องในคดีหมายเลขดำที่ อส.77/2559 ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้ฟ้องคดีที่ 1 เป็นเงิน 51,407 บาท ผู้ฟ้องคดีที่ 2 เป็นเงิน 51,032 บาท ผู้ฟ้องคดีที่ 3 เป็นเงิน 51,407 บาท ผู้ฟ้องคดีที่ 4 เป็นเงิน 45,302 บาท ผู้ฟ้องที่ 5 เป็นเงิน 50,807 บาท ผู้ฟ้องคดีที่ 6 เป็นเงิน 51,032 บาท ทั้งนี้ ให้ผู้ถูกฟ้องชดใช้ภายใน 30 วัน ตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา

โดยผู้ฟ้องทั้งหมดประกอบไปด้วยนายโคอิ มีนิ หรือ ปู่คออี้ และพวก 6 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวไทยพื้นเมืองดั้งเดิมเชื้อสายกะเหรี่ยง (ปกาเกอะญอ) คดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าที่รัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย กรณีเผาทำลายทรัพย์สินยุ้งฉางผู้ฟ้องทั้ง 6 คน

ล่าสุดกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้นำเงินจำนวน 300,987 บาท เพื่อจ่ายชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ฟ้องภายใน 30 วันตามคำสั่งศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับคำวินิจฉัยก่อนหน้านี้กรณีคำอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีทั้ง 6 ที่ขอกลับคืนสู่สภาพเดิมนั้น ศาลเห็นว่าเมื่อผู้ฟ้องคดี ไม่มีหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน ที่เป็นพื้นที่ข้อพิพาทอยู่ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ศาลจึงไม่อาจกำหนดคำบังคับให้ผู้ฟ้องคดีกลับไปอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่เดิมได้

นายสุรพงษ์ กองจันทึก ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษากะเหรี่ยงและพัฒนา เปิดเผยกับ 'วอยซ์ ออนไลน์' ว่า สำหรับวันนี้เป็นวันครบกำหนดจ่ายสินไหมทดแทนตามคำสั่งศาล ส่วนกรณีการขอกลับคืนพื้นที่เดินนั้น ก่อนหน้านี้ศาลไม่ได้พิพากษาว่า ปู่คออี้และพวก ไม่มีสิทธิกลับคืนพื้นที่ แต่ศาลไม่มีอำนาจบังคับ อย่างไรก็ตาม ศาลพิพากษาต่อว่าต้องดำเนินการตามมติครม.เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2553 เรื่องนโยบายและหลักปฏิบัติในการฟื้นฟูวิถีชาวกะเหรี่ยง แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด

ขณะที่ การดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่ร่วมปฏิบัติก็ยังไม่มีความคืบหน้า  

อ่านเพิ่มเติม