ไม่พบผลการค้นหา
ค่าเช่าอาคารสำนักงาน ปรับเพิ่มขึ้น 1.5% ต่อปี และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่คุณภาพและทำเลไม่ต่างกัน แต่ต่อจากนี้ ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว

เทคโนโลยี กลายเป็นตัวเร่งสำคัญที่ทำให้เกิดการปฏิวัติวงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ใครไม่มีเทคโนโลยีมาจัดการ จะแข่งขันได้ยากสุดในยุคนี้

ซีบีอาร์อี เปิดเผยรายงานฉบับแรกของการสำรวจ WORK_IT: เทคโนโลยี | สถานที่ทำงาน | งาน พบว่า ต่อจากนี้เทคโนโลยีจะเปลี่ยนนิยามด้านอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทในเอเชียแปซิฟิก  โดยเจ้าของอาคาร "จะเป็นผู้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงมากที่สุด"

WORK_IT เน€เธ—เธ„เน‚เธ™เน‚เธฅเธขเธต - เธชเธ–เธฒเธ™เธ—เธตเนˆเธ—เธณเธ‡เธฒเธ™ - เธ‡เธฒเธ™.jpg


เพราะอะไร?

ผู้เช่า ไม่ต้องการความจำเจ เจ้าของอาคารจึงต้องทำงานให้ใกล้ชิดกับผู้เช่ามากขึ้น โดยพัฒนาอาคารอัจฉริยะ (Smart Buildings) และต้องให้ผู้เช่ามีส่วนร่วมตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผน เพื่อให้ตรงความต้องการผู้เช่า ส่วนอาคารเก่าที่ยังไม่มีเทคโนโลยี ถ้าทำก็ดีแต่จะท้าทาย (ซึ่งหมายความว่าทำได้จะเก่งมาก... )

เมื่อทำเลไม่ใช่ที่สุด

เทคโนโลยีของโทรศัพท์มือถือ ทำให้ผู้เช่ามีทางเลือกมากขึ้น ไม่ใช่แค่ตึกอาคารสูงๆ ซึ่งไม่ค่อยคล่องตัวในการเปลี่ยนแปลงสัญญาเช่าเท่าไหร่ เลยเกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเช่าอาคารง่ายขึ้น ด้วยการใช้ไอทีมาบริหารจัดการ

WORK_IT Infographic_TH.jpg


สังเกตุได้จากผลสำรวจนี้ที่พบว่า มากกว่าครึ่งของผู้ตอบคำถาม ต้องการสภาพแวดล้อมการทำงานที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ตามความจำเป็นในการใช้งานของพนักงาน ในเอเชียแปซิฟิกเริ่มเห็นถึงผลกระทบที่มากขึ้นของการทำงานจากที่ใดก็ได้ บริษัทต่างๆ จึงพยายามสร้างบรรยากาศในการทำงาน ที่ทำให้พนักงานมีความพึงพอใจและสะดวกสบายมากขึ้น

ซึ่งประสบการณ์ในการใช้สถานที่ทำงาน จะมีอิทธิพลต่อกลยุทธ์ด้านอสังหาริมทรัพย์ และเทคโนโลยีจะทำให้พนักงานสามารถปรับเปลี่ยนสถานที่ทำงานของตนเองได้ พนักงานสามารถเลือกได้ว่าจะทำงานที่ไหน เมื่อใด และอย่างไร     

จากการศึกษาของแผนกวิจัยซีบีอาร์อีพบว่า บริษัทมีแนวโน้มจะเพิ่มปริมาณพนักงานด้านไอที รวมถึงจ้างผู้เชี่ยวชาญภายนอก (Outsource) หรือย้ายฐานการผลิตไปต่างประเทศมากขึ้น (Offshoring) ขณะที่อาจจะลดจำนวนพนักงานฝ่ายสนับสนุนให้น้อยลง

ผลที่เกิดขึ้นก็คือ 50% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นผู้เช่าพื้นที่สำนักงาน คาดว่า จะมีความต้องการใช้พื้นที่สำนักงานน้อยลงในอนาคต ซึ่งเหตุผลหลักมาจากการปรับปรุงการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ได้ดีขึ้นและจำนวนพนักงานที่ลดลงนั่นเอง

การทำงานที่ใดก็ได้กลายเป็นเรื่องจริง

85% ของผู้ตอบแบบสอบถาม อยากเห็นการทำงานจากที่ใดก็ได้ เพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยผ่านรูปแบบสถานที่ทำงานในลักษณะต่างๆ เช่น ที่ทำงานที่ออกแบบให้มีพื้นที่รองรับกิจกรรมที่แตกต่างกันไป (Activity-based Working) หรือ ที่ทำงานที่สามารถทำงานได้อย่างคล่องตัว (AGILE Workplaces) 

14639741_1767442670176618_3241520213280290117_n.jpg


และยังมีแนวโน้มที่จะมีความต้องการใช้โค-เวิร์กกิ้ง สเปซ และศูนย์บ่มเพาะธุรกิจมากขึ้น เพื่อให้เข้าถึงพนักงานด้านไอทีที่มีความสามารถและแนวคิดด้านนวัตกรรมใหม่

จากรายงานของไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย พบว่า อัตราค่าเช่าอาคารสำนักงานโดยเฉลี่ยรายไตรมาส "ปรับเพิ่มขึ้น 1.5% ต่อปี" ซึ่งต่อไปในอนาคตผู้เช่าสำนักงานในกรุงเทพฯ จะต้องเผชิญกับปัญหาอัตราค่าเช่าสำนักงานที่สูงขึ้น "แต่คุณภาพและทำเลไม่ต่างกัน"

14516520_1767442593509959_733699982799884286_n.jpg


ค่าเช่าอาคารเกรด A-B แตะ 1,000 บาท/ตร.ม.

ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทยคาดว่า ในอนาคตค่าเช่าโดยเฉลี่ยต่อเดือนของสำนักงานจะเป็นดังนี้ค่ะ

อาคารเกรด A อยู่ที่ 952 บาท/ตารางเมตร/เดือน

อาคารเกรด B อยู่ที่ 705 บาท/ตารางเมตร/เดือน

อาคารเกรด C อยู่ที่ 450 บาท/ตารางเมตร/เดือน

ในไตรมาส 2 ปี 2561 เริ่มเห็นภาพอาคารสำนักงานหลายแห่งในกรุงเทพฯ ตั้งอัตราค่าเช่ามากกว่า 1,000 บาท/ตารางเมตร/เดือน

ในขณะที่อัตราค่าเช่า โคเวิร์กกิ้ง สเปซ ค่าเช่าเฉลี่ยต่อเดือน สำหรับ Group work จะอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาทต่อเดือน และมีพื้นที่ทั้งห้องประชุม และโต๊ะทำงานให้ในพื้นที่ที่เหมาะสม ซึ่งมันก็สอดคล้องกับสภาพธุรกิจในปัจจุบันที่ Scale ของธุรกิจมักจะเล็กลง เพื่อให้การทำงานคล่องตัวขึ้น การเติบโตเห็นผลได้เร็ว

จากข้อมูลทั้งหมดเราคงได้เห็นภาพแล้วว่า ทำเลไม่ใช่ที่สุดของอสังหาริมทรัพย์กลุ่มออฟฟิศให้เช่าอีกต่อไป แต่ "ราคา" และ "ความคล่องตัว" ต่างหากที่ทุกคนต้องการ