สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,236 คน ระหว่างวันที่ 20-24 มี.ค. 2561 ในหัวข้อ 'การเมืองไทยร้อนๆ ณ วันนี้'
โดยสอบถามประชาชนถึงกรณีการยื่นขอจดจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ จนถึงขณะนี้มีทั้งหมดกว่า 60 พรรค พบว่า ประชาชนร้อยละ 41.59 มองว่าอยากได้พรรคกา��เมืองที่ดีมีคุณภาพ เน้นทำประโยชน์เพื่อประชาชน
ส่วนกรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ผลสำรวจพบว่า ร้อยละ 40 อยากให้พิจารณาตรงไปตรงมา ไม่ขัดกับกฎหมาย ร้อยละ 35.36 มองว่าเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้บางกลุ่มไม่พึงพอใจ ร้อยละ 28.1 มองว่าอาจมีผลต่อการเลือกตั้งเป็นการยื้อเวลา
ส่วนกรณี คสช.ใช้ มาตรา 44 ให้นายสมชัย ศรีสุทธิยากร พ้นจากตำแหน่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร้อยละ 39.24 มองว่า ควรมีการชี้แจงเหตุผลที่มาที่ไปให้สังคมได้รับรู้ เพื่อความเขัาใจที่ถูกต้อง ร้อยละ 32.72 เป็นการใช้อำนาจมากเกินไป ร้อยละ 32.46 กระทบต่อภาพลักษณ์ ของ คสช.
เมื่อถามถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. จะควบคุมสถานการณ์ (เอาอยู่) หรือไม่ ร้อยละ 51.21 มองว่าเอาอยู่ เพราะมีอำนาจพิเศษ มีกำลังทหารเด็ดขาด ตั้งใจที่จะแก้ปัญหา น่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ร้อยละ 29.61 ไม่แน่ใจ เพราะต้องรอดูต่อไป ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวทุกอย่างเกิดขึ้นได้เสมอ ขณะที่ ร้อยละ 19.18 มองว่า เอาไม่อยู่ บ้านเมืองมีปัญหาหลายด้าน แก้ไขได้ยาก ทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
'ซูเปอร์โพล' พบประชาชนร้อยละ 51.1 ยังไม่มีพรรคการเมืองในใจ
ขณะที่ สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลวิจัยเชิงสำรวจเรื่อง 'ประชาธิปไตยกับการเลือกพรรค' จากประชาชนทุกสาขาอาชีพ จำนวน 1,047 ราย ระหว่างวันที่ 15 – 24 มี.ค. ที่ผ่านมา พบว่า ร้อยละ 60.8 รู้เข้าใจประชาธิปไตย บอกได้ว่าประชาธิปไตยคืออะไร ขณะที่ร้อยละ 39.2 ไม่รู้ ไม่ทราบ
สำหรับพรรคการเมืองที่เลือกแล้วในใจ พบว่า ร้อยละ 48.9 เลือกพรรคในใจแล้ว ขณะที่ร้อยละ 51.1 ไม่เลือกพรรคใดเพราะเบื่อ ไม่เชื่อใจ ดีเฉพาะหาเสียง ถอนทุนคืน โกง เลือกมาก็เหมือนเดิม ไม่มีใครทำเพื่อประชาชนและประเทศชาติแท้จริง
เมื่อจำแนกตามกลุ่มที่รู้เข้าใจประชาธิปไตยและกลุ่มไม่รู้ ไม่ทราบ พบว่า คนไม่รู้ ไม่ทราบประชาธิปไตยร้อยละ 52.5 เลือกพรรคในใจแล้ว แต่คนที่รู้เข้าใจประชาธิปไตย ร้อยละ 53.3 ไม่เลือกพรรคใด
สำหรับความต้องการของประชาชนต่อรัฐบาลและ คสช.ให้ทำเพื่อคืนความสุขประชาชนพบว่า อันดับแรกร้อยละ 68.9 ต้องการรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี รักษาโรคฟรีคืน รองลงมาร้อยละ 66.5 ต้องการให้แก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่นในหน่วยงานรัฐ โกงเงินคนจน ขอให้เยียวยาคนจน ร้อยละ 63.2 ต้องการความปลอดภัยทางถนน ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ขณะที่ร้อยละ 62.4 ต้องการให้แก้ปัญหายาเสพติด จัดระเบียบสังคม สถานบันเทิง หวยเกินราคา รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถตู้ เหมือนตอนรัฐบาลและคสช.เข้ามาใหม่ๆ