'วอยซ์ ออนไลน์' เปิดใจ 2 ผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ที่มีมุมมองความรักตัวเองเป็นแรงผลักดันให้เธอเข้าประกวดนางงาม และกลายเป็นที่รักของเพื่อนๆ กองประกวด และแฟนคลับในโลกออนไลน์ เหมือนอย่างที่หลายคนเคยบอกว่า "ความรักที่ยิ่งใหญ่ต้องเริ่มจากการรักตัวเองให้เป็นก่อน"
'ฝน - น้ำฝน ศิริกุล' ผู้เข้าประกวดหมายเลข 39 ที่สมัครเข้ามาประกวดในเวทีนี้มาแล้วถึง 5 ครั้ง แต่ตกรอบแรกในปี 2011, 2013, และ 2016 และผ่านเข้าสู่รอบ 40 คนสุดท้ายในปี 2014, และ 2018 ซึ่งปีนี้เป็นปีสุดท้ายที่เธอจะสามารถเข้าประกวดได้ ก่อนที่ปีหน้าอายุจะเกิน 27 ปีซึ่งเลยเกณฑ์การรับสมมัคร
เธอเล่าให้ฟังว่าทุกครั้งที่ตกรอบเธอก็จะกลับไปเสียใจอยู่สองสัปดาห์ และหลังจากนั้นก็จะพัฒนาตัวเอง เรียนรู้จากข้อผิดพลาด แล้วกลับมาสมัครใหม่ เพราะความฝันของเธอคือเป็นนางงามจักรวาลซึ่งเป็นที่จับจ้องสนใจของทุกคน ส่วนหนึ่งอาจมาจากปมตอนเด็กที่ลึกๆ รู้สึกขาดความรักจากพ่อแม่่ที่แท้จริง เพราะเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกพ่อแม่ทิ้งไว้หน้าโรงพยาบาลหลังคลอด และโชคดีที่พยาบาลที่ทำคลอดเธอมาพบ และรับไปเลี้ยงดูเป็นลูกจนถึงปัจจุบัน
ปมด้อยนี้ไม่เคยทำให้เธอรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ แต่ในทางกลับกันเธอภูมิใจที่มีคนรับเลี้ยงดู และรักเธอเหมือนลูกแท้ๆ อีกทั้งยังสนับสนุนให้เธอทำในสิ่งที่ฝัน ส่วนตัวเธอเองก็ต้องการสร้างความภูมิใจให้ตัวเอง และครอบครัวเช่นเดียวกัน น้ำฝนเปิดเผยว่า การมาสมัครทุกครั้งเธอจะตั้งเป้าหมายคือชนะเลิศการประกวด เพราะการตั้งเป้าหมายให้สูงๆ จะทำให้ตัวเองมีแรงผลักให้ทำทุกอย่างให้สุดความสามารถจนกว่าจะได้มา แต่ถ้าไม่เป็นไปตามฝัน อย่างน้อยๆ ก็ได้เพื่อนหลากหลายอาชีพ และที่สำคัญคือได้ประสบการณ์ ได้ลองเจ็บเอง ล้มเอง และลุกขึ้นเอง แต่เราต้องไม่ดูถูกตัวเอง เราต้องเห็นคุณค่าในตัวเอง เมื่อเราเชื่อว่าทำได้ เราจะพัฒนาตัวเองในสิ่งที่ขาด ถ้าเราคิดว่าเราไม่สวย เราก็ต้องหาทักษะอื่นมาเสริม ไม่ใช่เอาแต่โทษตัวเอง โทษชะตา
"การที่เราล้ม แล้วลุกขึ้นได้เสมอ ถ้าฝนทำได้ คนทุกคนก็ทำได้"
ส่วนกระแสข่าว ที่มีนางงามปี 2014 ออกมาโจมตีว่าเธอมีนิสัยไม่ดีในการเก็บตัวในกองประกวด เธอยอมรับว่าตอนนั้นมีพฤติกรรมที่ไม่ดีกับเพื่อนๆ และพี่เลี้ยงจริงๆ แต่กลับมาครั้งนี้เธอขอโทษทุกคนตั้งแต่วันแรกที่เข้ากองประกวด เธอเชื่อว่าถ้าทำผิดแล้วยอมรับก็จะมีคนให้อภัย แต่สิ่งสำคัญกว่าคำพูดคือการปรับปรุงตัวเองเพื่อเป็นการพิสูจน์ เมื่อเราทำได้ เราก็จะต้องปล่อยวาง และให้อภัยตัวเอง เพื่อให้ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันได้อย่างมีความสุข
'เบลล์ - อัปสร โอริญาเบลล์ เมนิล' ผู้เข้าประกวดหมายเลข 38 สาวลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส ที่เข้ามาสมัครเพราะเห็นเพื่อนสนิท 'แก้ม - กชกร ทรัพยโตษก' ผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ปี 2017 เปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นผู้หญิงที่สวยและมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ทำให้เธออยากลองมาประกวดบ้าง
แม้ตอนแรกที่เธอเข้ารอบ 40 คนสุดท้าย จะมีกระแสในโลกออนไลน์วิจารณ์ว่าเธอเป็นผู้เข้าประกวดที่สวยสู้คนอื่นๆไม่ได้ แต่สุดท้ายเธอกลายเป็นสาวงามไม่กี่คนที่มีกระแสชื่นชมตามบอร์ดนางงามต่างๆ มากที่สุด นั่นเป็นเพราะรอยยิ้มที่สดใสเป็นเอกลักษณ์ของเธอในทุกกิจกรรม
เธอบอกว่า เธอเป็นคนมีความสุขในชีวิต เพราะเธอคิดว่าชีวิตมีแค่ชีวิตเดียว มีความสุขกับมันดีกว่าทุกข์ ยิ้มไปเถอะ นอกจากจะทำให้เรามีความสุขแล้วคนรอบๆตัวก็มีความสุขไปด้วย นอกจากนี้ รอยยิ้มของเธอมาจาก 'ความรักตัวเอง' เธอเปิดเผยว่า เธอมักจะหาข้อดีจากจุดด้อยของตัวเอง เรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน และรักมัน เช่น เธอเป็นคนที่ขนแขนดก และถูกเพื่อนผู้ชายล้อยู่บ่อยๆ ตอนแรกก็เศร้า แต่พออยู่ไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกรักมัน และเพื่อนๆ ก็ชอบที่มันนุ่มดี เช่นเดียวกับความสวย ถ้ามีคนมาทักว่าเธอไม่สวย เธอก็จะไม่เสียใจ เพราะเธอรักหน้าตา รูปร่างของตัวเองไปแล้ว
"หนูรู้ว่าหนูไม่เพอร์เฟกต์ตรงไหน หนูรู้จุดไม่เด่นของตัวเอง แต่หนูหัดให้หนูรักในสิ่งที่คนอื่นอาจจะมองไม่สวย ทุกอย่างที่หนูมี หนูเป็นหนูรักตัวเองอยู่แล้ว เรื่อส่วนสูงคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่ตัวสูงที่สุด (168 เซนติเมตร) แต่พอมาที่นี่กลายเป็นคนตัวเล็กไปเลย พอมองคนอื่นแล้ว เราตัวเตี้ยหรือเนี่ย ฮ่าๆๆๆ"
เธอยังแนะนำว่า การออกกำลังกาย เช่น แพลงก์ และโยคะ ช่วยให้ใจเย็น และความคุมสติอารมณ์ในชีวิตประจำวันได้ดี เธอทำทุกเช้าหลังตื่นนอน ทำให้เธออารมณ์ดีตลอดทั้งวัน แต่ขณะเดียวกัน หากเธอเจอเรื่องทีี่ไม่พอใจ หรือถูกสั่งให้ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เธอก็จะไม่เก็บมาเป็นอารมณ์ แต่จะปฏิเสธด้วยเหตุผลเสมอ
'ความรักตัวเอง' คือ อีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 มีความสวยจากภายใน และแสดงออกผ่านรอยยิ้ม แววตา เป็นความสวยภายนอกที่สายตามองเห็น แล้วสุดท้ายคนรอบข้างจะส่งความรักกลับมาให้เรา
เป็นกำลังใจให้พวกเธอได้ในการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 รอบพรีลิมมินารีในวันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายนนี้ และรอบสุดท้ายวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายนนี้ ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์
อ่านเพิ่มเติม: