ไม่พบผลการค้นหา
'สมศักดิ์' แจงรัฐบาลเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้เต็มที่ ตั้งแต่ฝนตกวันแรก พร้อมตั้งศูนย์บริการรวมใจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ รวบรวมข้อมูลเร่งเยียวยาผู้เสียหาย ครอบครัวผู้เสียชีวิต ระบุเสร็จสิ้นถกงบฯ 67 เดินหน้าเยียวยาต่อ

สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เกิดจากความเย็นจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทย ผ่านอ่าวไทยได้หอบเอาความชื้นในอ่าวไทย ทำให้ฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.2567 และเข้าสู่ภาวะปกติในวันที่ 31 ธ.ค. สทนช.ได้ตั้งศูนย์ส่วนหน้าให้ความช่วยเหลือประชาชนตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. ที่สำนักงาน ศอ.บต.จังหวัดยะลา

ก่อนที่เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนในวันที่ 26 ธ.ค. พร้อมพบปะผู้ประสบอุทกภัย 200 คน ในศูนย์พักพิงที่อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งมีทั้งเด็กและผู้สูงอายุ ขณะที่ตนเองได้ลงพื้นที่ จ.ยะลาและ จ.ปัตตานี ในวันที่ 28 ธ.ค. เพื่อพบปะประชาชนและเตรียมการให้ความช่วยเหลือ พร้อมกับประชุมอนุมัติถุงยังชีพ 53,810 ชุด วงเงินกว่า 37 ล้านบาท เยียวยาผู้เสียหาย ขณะเดียวกันได้จ่ายเงินเยียวยาให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตจำนวน 14 ราย เป็นเงิน 540,900 บาท โดยมีบางส่วนที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเนื่องจากอยู่ระหว่างการรบรวมเอกสาร 

สมศักดิ์ เปิดเผยว่า นายกฯ ได้สั่งการในที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 2 ม.ค.2567 มอบหมายให้ ศอ.บต. บูรณาการกับหน่วยงานอื่นๆ ให้ตั้งศูนย์บริการรวมใจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ มี 3 กลุ่ม ประกอบกลุ่มแรก กรมราชทัณฑ์ กรมฝีมือแรงงาน และคณะกรรมการอาชีวะศึกษา กลุ่มที่ 2 กลาโหม กอ.รมน.ภาค 4 และ กลุ่ม 3 เป็น ศอ.บต. ทำหน้าที่ช่วยเหลือและติดตามความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากการประสานงานทั้ง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ประกอบด้วย สตูล สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส มีประชาชนได้รับความเสียหาย 121,582 ครัวเรือน ส่วนปศุสัตว์ได้รับความเสียหาย ประกอบด้วย เป็ด ไก่ แพะ จำนวน 387,728 ตัว อาคารชำรุด ถนนเสียหาย 13 จุด เราจะบูรณาการงบประมาณต่างๆ ต่อไป ยืนยันรัฐบาลไม่ได้ละเลย แต่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ โดยหลังการพิจารณางบประมาณ 2567 เสร็จสิ้นก็จะดำเนินการต่อไป