ไม่พบผลการค้นหา
"ศรีสุวรรณ" จ่อร้องนายกรัฐมนตรี ให้ตรวจสอบอินเทอร์เน็ตประชารัฐ ส่อฮั้วประมูล พร้อมขอให้มีการสั่งระงับการประมูลในวันที่ 12 ต.ค.นี้ ไว้ก่อน จนกว่าจะสร้างความโปร่งใสในการประมูลได้

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ผลักดันให้มี “โครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมของประเทศ” หรือ “อินเทอร์เน็ตประชารัฐ” เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และสนองนโยบายนำพาประเทศไทยก้าวสู่ “ไทยแลนด์ 4.0” โดยจำนวนหมู่บ้านในประเทศไทยที่มีอยู่ราว 74,965 หมู่บ้านพบว่า มีสัญญาณไวไฟเข้าถึงแล้ว 41,000 หมู่บ้าน อีก 33,965 หมู่บ้านยังไม่มีโครงข่ายและสัญญาณอินเทอร์เน็ตเข้าถึง รัฐบาลจึงแบ่งมอบงานโครงการออกเป็น 3 ส่วน คือ เฟสที่ 1 (โซน A และ B) จำนวน 24,700 หมู่บ้าน มอบให้กระทรวงดีอีรับไปดำเนินการภายใต้วงเงิน 15,000 ล้านบาท และมอบหมายให้บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ลงทุนขยายเคเบิลใยแก้วระหว่างประเทศ (อินเทอร์เน็ตเกตเวย์) วงเงิน 5,000 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตที่จะเพิ่มขึ้น 

ส่วนเฟสที่ 2 (โซน C) มอบให้ กสทช.ดำเนินการ 15,000-16,345 หมู่บ้าน โดยใช้เงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมเพื่อบริการสาธารณะ(กองทุน กทปส.) ซึ่ง กสทช. ได้สำรวจพบว่ายังคงมีหมู่บ้านในพื้นที่ห่างไกลหรือพื้นที่ “ชายขอบ” อีกกว่า 3,920 หมู่บ้าน ที่ยังไม่มีโครงข่ายอินเทอร์เน็ต และเครือข่ายมือถือใดๆ เข้าไปให้บริการ จึงได้แยกโครงการดังกล่าวออกมาดำเนินการก่อน อันเป็นที่มาของโครงการ “เน็ตชายขอบ” ที่เปิดให้บริษัทสื่อสารเข้ามาดำเนินการภายใต้วงเงินดำเนินการราว 13,000 ล้านบาทไปแล้ว

ในการเปิดประมูลเฟสที่ 2 กสทช.จะมีการดำเนินการ E-bidding กันในวันที่ 12 ต.ค.2561 นี้(เวลา 8.00-16.30 น.)มีมูลค่า 23,000 ล้านบาท โดยในเงื่อนไขการประมูลนั้น กสทช.กำหนดให้บริษัทใด ๆ ที่จะเข้าร่วมประมูลจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน หนึ่งในคุณสมบัตินั้นคือ การได้รับหนังสือแต่งตั้งและรับรองของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่มีคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วนตาม TOR จากบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์

แต่พบว่ามีผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ 5 รายที่มีคุณสมบัติครบ แต่ปฏิเสธการออกหนังสือรับรองให้กับผู้ใดหรือบริษัทใดได้อีก เนื่องจากผู้ผลิต 5 รายถูกคำสั่งจากผู้มีอำนาจที่ทำการล็อคสเปคและรวมตัวกันเพื่ออกหนังสือแต่งตั้งละรับรองให้กับรัฐวิสาหกิจบางราย และบริษัทเอกชนใหญ่บางรายที่ซูเอี๋ยกันเท่านั้น โดยผู้มีอำนาจใน กสทช.ดังกล่าวได้สั่งให้ตัวแทนการนำเข้าคอมพิวเตอร์ในประเทศไทย 2 รายสั่งห้ามผู้ผลิต 5 ราย ไม่ให้ออกหนังสือรับรองหรือห้ามแตกแถวหากไม่ใช่พวกของตน

ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 11, 12 แห่งพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 ทำให้รัฐและประชาชนเสียประโยชน์ เพราะทำให้มีผู้เข้าแข่งขันประมูล E-bidding จำนวนน้อยรายและสามารถซูเอี๋ยราคากันได้

ดังนั้น สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความไปร้องเรียนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้สั่งการให้มีการตรวจสอบเป็นการด่วน และสั่งระงับการประมูลอินเทอร์เน็ตประชารัฐในวันที่ 12 ต.ค.นี้ไว้ก่อน จนกว่าจะสร้างความโปร่งใสในการประมูลได้ โดยสมาคมฯจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันที่ 11 ต.ค. 2561 เวลา 10.30 น. ณ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนฯ ตึก กพร.เดิม ทำเนียบรัฐบาล อย่างไรก็ตามหากการร้องเรียนนี้ไม่เป็นผล สมาคมฯ จะนำความไปร้อง ป.ป.ช. เพื่อเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :