นายบาบู คาลายี เขียนจดหมายถึงนายนเรนทรา โมดิ นายกรัฐมนตรีอินเดีย เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อเตือนว่าจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงและสึนามิในมหาสมุทรอินเดียช่วงก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2017 และจะสร้างผลกระทบกับประเทศอินเดีย ปากีสถาน และประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ทั้งหมด11ประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย ซึ่งคำเตือนดังกล่าวเกิดจากการที่นายบาบูอ้างว่า ตนเองมีสัมผัสพิเศษและมองเห็นการเกิดแผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย
หลังจากจดหมายฉบับนี้ได้เผยแพร่ออกไป รองประธานศูนย์ฟื้นฟูและบรรเทาภัยพิบัติแผ่นดินไหวประเทศปากีสถาน (ERRA) สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางเตรียมการรับมือสำหรับเรื่องนี้ โดย ดร.กรูเล็ม ราสูญ เจ้าหน้าที่ระดับขององค์กร กล่าวกับทางสื่อบีบีซีภาคภาษาอูรดูร์ว่า “แม้ว่าการทำนายนี้จะไม่ได้รับการรับรองทางวิทยาศาสตร์ แต่พวกเราก็ได้มีการเตรียมการที่จะรับมือผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น”
ขณะที่นิตยสารไทม์สของสหรัฐฯ รายงานอ้างอิงผลวิจัยของนายโรเจอร์ บิลแฮม นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโคโลราโด และนางสาวรีเบคก้า เบนดิก จากมหาวิทยาลัยมอนทานา สหรัฐอเมริกา ซึ่งกล่าวในที่ประชุมสมาคมธรณีวิทยาของสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า ในปี 2018 นี้ มีแนวโน้มว่าจะเกิดแผ่นดินไหวเพิ่มขึ้นทั่วโลก เนื่องจากโลกหมุนช้าลง ส่งผลต่อการไหลวนของของเหลวภายในเปลือกโลก และจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยผลวิจัยอ้างอิงการสำรวจอัตราการหมุนของโลกที่ช้าลงในช่วงกว่า 4 ปีที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าการที่โลกหมุนช้าลงส่งผลต่อการเกิดแผ่นดินไหว
ปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกต่างพยายามพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อทำนายและคาดการการเกิดแผ่นดินไหว แต่ยังไม่มีเทคโนโลยีใดๆ ที่สามารถทำนายผลได้ล่วงหน้านานกว่า 15 วินาทีก่อนการเกิดมหันตภัยต่างๆ
ส่วนแผ่นดินไหวขนาด 9.1-9.3 แมกนิจูดที่เกิดขึ้นในมหาสมุทรอินเดียเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ทำให้เกิดสึนามิรุนแรงซัดทำลายพื้นที่หลายเมืองในหลายประเทศ รวมไทย ทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายรวมกว่า 230,000 คน