แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ช่วงหน้าหนาวการสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายด้วยการออกกำลังกายและกินอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในการป้องกันโรคต่างๆ ได้ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กอ่อน เด็กเล็ก และกลุ่มผู้สูงอายุซึ่งเป็นกลุ่มที่มักได้รับผลกระทบต่อสุขภาพได้ง่ายเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ พ่อแม่และผู้สูงอายุจึงต้องมีความเข้าใจและรู้จักการดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับโรคระบบทางเดินหายใจ โรคไข้หวัด หากเกิดโรคดังกล่าวในช่วงหน้าหนาว อาจส่งผลกลายเป็นโรคหลอดลมอักเสบและโรคปอดบวมได้ในที่สุด จึงควรสร้างความอบอุ่นร่างกายให้กับตนเองด้วยการสวมเสื้อผ้าที่มิดชิด หลีกเลี่ยงการอาบน้ำเย็นในเวลากลางคืน
นอกจากนี้สำหรับคุณแม่มือใหม่ ควรดูแลลูกน้อยเป็นพิเศษ เพราะเมื่อเจอกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นลูกอาจปากแห้งแตก จึงควรให้ลูกดื่มนมจากเต้าบ่อยๆ วันละ 6-8 ครั้ง และในช่วงให้นมลูก อ้อมกอดของแม่จะช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับลูกด้วย ซึ่งนมแม่เป็นสารอาหารที่สำคัญและสร้างภูมิคุ้มกันและต้านทานโรคที่ดีที่สุดให้กับทารก
“วิธีที่ทำให้ร่างกายอบอุ่นคลายหนาวที่เหมาะกับทุกกลุ่มวัย คือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อาทิ การเดินเร็วๆ การวิ่งเหยาะ การขี่จักรยาน การเล่นกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง การรำมวยจีน โดยทำให้รู้สึกหายใจเร็วขึ้น ไม่ต้องถึงกับหอบ สัปดาห์ละ 5 วันเป็นเวลาอย่างน้อยวันละ 30 นาทีก็เพียงพอที่จะเกิดภูมิคุ้มกัน หรือแม้กระทั่งการทำงานบ้าน ไม่ว่าจะเป็นกวาดบ้าน ถูบ้าน ซึ่งในการเริ่มต้นออกกำลังกายนั้น ควรเริ่มจากเบาๆระยะเวลาน้อยๆก่อนแล้วค่อยๆ เพิ่มเวลาขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละสัปดาห์เพื่อให้ร่างกายปรับตัว จากนั้นจึงเพิ่มความแรงหรือความหนัก และการออกกำลังกายในแต่ละครั้งไม่จำเป็นต้องหนักหรือเหนื่อยมาก” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
อธิบดีกรมอนามัย กล่าวด้วยว่า ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือควรพักผ่อนให้เพียงพอ และกินอาหารประเภทผักและผลไม้สด ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันโรคระบบทางเดินหายใจอีกด้วย และเนื่องจากในช่วงอากาศหนาวเย็นจะทำให้อาหารจับตัวเป็นไข ก่อนการบริโภคจึงควรนำไปอุ่นให้ร้อนเสียก่อน ซึ่งจะช่วยเพิ่มรสชาติของอาหารให้อร่อยขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มอุณหภูมิความร้อนให้กับร่างกายและสามารถคลายความหนาวได้อีกทางหนึ่งด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :