1 ก.พ. 2561 นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร ยืนยันผ่าน 'วอยซ์ทีวีและวอยซ์ ออนไลน์' หลังเป็นประธานในพิธีมอบใบอนุญาตจัดตั้งเขตปลอดอากรให้แก่ผู้ประกอบการเขตปลอดอากรที่ดำเนินการอยู่ก่อนวันที่ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 มีผลบังคับใช้ จำนวน 63 รายที่อาคาร1 กรมศุลกากรว่า ได้รับหนังสือร้องเรียนจาก น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กทม. ให้ตรวจสอบการยื่นใบขนสินค้าและสำแดงนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เรียบร้อยแล้ว และได้ดำเนินการตามกรอบที่กรมศุลกากรจะดำเนินการ ยืนยันไม่ได้เพิกเฉย วันที่ได้ให้สัมภาษณ์คือเช้าวันจันทร์ที่ 29 ม.ค. 2561 ยังไม่ได้รับ ซึ่งตนเองได้รับช่วงบ่าย และดำเนินการทันทีเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2561ไปเรียบร้อยแล้ว ตามกรอบกฎหมายที่กรมศุลกากรจะดำเนินการได้ แต่ไม่ขอให้รายละเอียด และไม่ขอตอบโต้อะไรทั้งสิ้น และก็ไม่ได้พลิ้วหรือไม่ได้อะไร กรมศุลกากรดำเนินการตามหน้าที่หมดแล้ว  

ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงขั้นตอนและกรอบเวลาในการตรวจสอบ อธิบดีกรมศุลกากร ได้ปฏิเสธ และบอกเพียงว่า "ผมไม่อยากตอบโต้กันไปมา" พร้อมกับเดินหนีจากการให้สัมภาษณ์ทันที

กุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร

ก่อนหน้านี้ น.ส.รสนา โตสิตระกูล โพสต์เฟซบุ๊กถึงการทำหน้าที่ของ นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร ในการตรวจสอบภาษีนาฬิกา 25 เรือน ของ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ว่า “การตรวจภาษีนำเข้านาฬิกา25เรือนเป็นอำนาจหน้าที่ของกรมศุลกากรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” โดยระบุว่า กรมศุลกากรไม่อาจปฏิเสธการตรวจสอบภาษีนาฬิกา 25 เรือนนี้ที่ พล.อ.ประวิตรสวมใส่ได้ เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของกรมศุลกากรโดยเฉพาะ และเมื่อพบว่าบุคคลที่ถูกร้องเรียนนั้นมีการกระทำผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ศุลกากร โดยเฉพาะถ้าเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อธิบดีกรมศุลกากรเป็นผู้มีหน้าที่ต้องแจ้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถึงการทำผิดในกรณีนี้ การทำงานในส่วนนี้จึงไม่ซ้ำซ้อนกัน 

น.ส.รสนา ยังย้ำว่า ได้ส่งหนังสือร้องเรียนถึงอธิบดีกรมศุลกากรเมื่อวันที่ 22 ม.ค 2561 และเอกสารไปถึงกรมศุลกากรเมื่อวันที่ 23 ม.ค 2561 โดยขอให้ตรวจสอบนาฬิกา 25เรือนอาจไม่มีการดำเนินการตามพิธีการทางศุลกากรและการเสียภาษีในการนำเข้าโดยถูกต้องตามกฎหมาย และหากอธิบดีกรมศุลกากรเพิกเฉยย่อมเป็นความผิดฐานไม่จัดเก็บภาษีให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 154 และปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งเป็นหน้าที่และอำนาจของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะดำนินคดีตามกฎหมายกับอธิบดีกรมศุลกากรและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด อีกทั้งหากอธิบดีกรมศุลกากรยังไม่ให้คำตอบว่าจะดำเนินการตรวจสอบนาฬิกา 25 เรือนหรือไม่ในเวลาที่สมควร ส่วนตัวจะต้องใช้สิทธิยื่นร้องต่อคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) และผู้ว่าการตรวจเงิน (สตง.) ให้แจ้งไปยังกรมศุลกากรให้ตรวจสอบภาษีดังกล่าวต่อไป