ไม่พบผลการค้นหา
ประเสริฐ จันทรรวงทอง ​รองนายกฯและ รมว.ดีอี นั่งหัวโต๊ะประชุม บอร์ด AI แห่งชาติ ประกาศลงทุนภาครัฐขั้นต่ำ 25,000 ล้านบาท ขับเคลื่อนภาคีเครือข่าย - ศูนย์ความเชี่ยวชาญ ด้าน AI

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติ เพื่อการพัฒนาประเทศไทย (National AI Committee) ครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2568 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นางสาวธีราภา ไพโรหกุล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดีอี และคณะกรรมการจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เข้าร่วมการประชุมเพื่อพิจารณาทิศทางการขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ให้เป็นกลไกสำคัญในการยกระดับศักยภาพของประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน

รองนายกรัฐมนตรี ย้ำถึงความสำคัญของการประชุมฯ ในวันนี้ว่าเป็นการเดินหน้าอีกก้าวหนึ่งของแผนพัฒนาด้าน AI ของชาติ ทั้งนี้ ในการประชุมที่ผ่านมาได้มีการกำหนดกรอบการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติ หรือ National AI Program เพื่อให้เป็นทิศทางในการพัฒนา AI ของประเทศ โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้แผนงานต่าง ๆ เกิดผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนอย่างยิ่ง ซึ่งการประชุมวันนี้จะมีการพิจารณากลไกการขับเคลื่อนตามกรอบการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติ (National AI Program) รวมทั้งกรอบงบประมาณการขับเคลื่อนตามกรอบการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 -2570 ให้มีความสอดคล้องกับเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ร่วมกันต่อไป

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการพิจารณาและเห็นชอบในประเด็นสำคัญสรุป ดังนี้

ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (National AI Committee) ครั้งที่ 2 โดยเพิ่มรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นกรรมการ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการกำหนดนโยบายด้านการศึกษา การพัฒนาทักษะและการเตรียมความพร้อมกำลังคนของประเทศ เพื่อรองรับการประยุกต์ใช้และการพัฒนาเทคโนโลยี AI ในภาคเศรษฐกิจและสังคมอย่างเป็นระบบ 

รวมทั้งที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางการขับเคลื่อนตามกรอบการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติ (National AI Program) ให้มีความชัดเจนและเป็นระบบต่อเนื่องจากการประชุมครั้งที่ผ่านมา โดยครอบคลุมทั้งมิติการสร้างความพร้อมด้าน AI (AI Readiness) และการประยุกต์ใช้ AI ในภาคส่วนต่าง ๆ (AI Adoption) และมีข้อสรุปสำคัญ 4 ประเด็น ดังนี้

1. เห็นชอบการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในลักษณะของกลุ่มภาคีเครือข่าย (Consortium) เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านต่าง ๆ และมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือดังกล่าว

2. เห็นชอบแนวทางการยกระดับการทำงานให้เชื่อมโยงระหว่างโครงสร้างพื้นฐานและการประยุกต์ใช้ AI โดยจัดตั้ง ศูนย์รวมความเชี่ยวชาญ (Center of Excellence:CoEs) ในสาขาต่าง ๆ เพื่อเร่งรัดการพัฒนาและบูรณาการการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เบื้องต้นจำนวน 9 แห่ง ได้แก่

   • ศูนย์นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ด้านการศึกษา

   • ศูนย์นวัตกรรมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ด้วยปัญญาประดิษฐ์

   • ศูนย์นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ด้านการเกษตร

   • ศูนย์ความเป็นเลิศด้านปัญญาประดิษฐ์เพื่อการท่องเที่ยว

   • ศูนย์ความเป็นเลิศด้านปัญญาประดิษฐ์เพื่อสุขภาพและสุขภาวะ

   • ศูนย์ความเป็นเลิศด้านปัญญาประดิษฐ์เพื่อการผลิต

   • กลุ่มภาคีเครือข่ายด้านโมเดลภาษาขนาดใหญ่ภาษาไทย

   • ศูนย์การประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ภาครัฐ

   • ศูนย์สอบเทียบสมรรถนะและทดสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ปัญญาประดิษฐ์

นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติให้รับหลักการในการตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านความมั่นคงและความปลอดภัย (Safety and Security) เพิ่มอีกหนึ่งแห่ง 

3. มอบหมายให้ศูนย์ความเชี่ยวชาญดำเนินการจัดทำแผนย่อยรายสาขา ครอบคลุมทั้งด้านความพร้อมและผู้ใช้งาน AI ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2568 เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้ตามกรอบที่วางไว้

4. เห็นชอบในหลักการของกรอบการใช้จ่ายงบประมาณการขับเคลื่อนตามกรอบการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 - 2570 และ รับทราบงบประมาณของภาครัฐ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ทั้งงบประมาณในแผนและนอกแผน รวมถึงเงินจากกองทุนของรัฐที่ได้ลงทุนไปแล้ว ซึ่งมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 25,000 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้เน้นย้ำการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน การยกระดับโครงสร้างและการประยุกต์ใช้ AI ผ่านศูนย์รวมความเชี่ยวชาญ การจัดทำแผนย่อยรายสาขาเพื่อให้ดำเนินงานได้ตามกรอบที่กำหนด และการจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนการพัฒนา AI ของประเทศอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง