หลายสหภาพแรงงานในไนจีเรีย ต้องการรัฐบาลประกาศการขึ้นค่าจ้างรายเดือนเป็น 255 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 9,390 บาท) เพื่อช่วยรับมือกับค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่ทินูบูเข้ารับตำแหน่งในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีไนจีเรียประกาศการขึ้นเงินเดือนแรงงานแค่ 32 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1,180 บาท) ซึ่งทำให้เงินเดือนขั้นต่ำแรงงานในไนจีเรียปรับขึ้นไปอยู่ที่ 70 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2,580 บาท) เท่านั้น นอกจากนี้ ประธานาธิบดีไนจีเรียยังให้คำมั่นที่จะเร่งเปิดตัวรถเมล์ที่ใช้น้ำมันราคาถูก เพื่อช่วยราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น 3 เท่าในช่วงที่ผ่านมา
นโยบายล่าสุดนี้ ได้รับการประกาศหลังจากที่ทินูบู แถลงการยกเลิกการอุดหนุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเคยช่วยให้ราคาน้ำมันในไนจีเรีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของแอฟริกา อยู่ในระดับต่ำมานานหลายทศวรรษ
นอกจากนี้ ในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ไนจีเรียยังได้ยกเลิกการตรึงสกุลเงินของประเทศ เพื่อให้สามารถเกิดการซื้อขายได้อย่างอิสระ ซึ่งนำไปสู่การลดลงของค่าเงินไนราครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ โดยนโยบายดังกล่าวนี้ ส่งผลให้ชีวิตประชาชนในไนจีเรียเกิดความยากลำบากยิ่งขึ้น หลังจากที่พวกเขาต้องดิ้นรนกับปัญหาอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น
ในการปราศรัยต่อประชาชนทั่วประเทศทางโทรทัศน์ เนื่องในวาระครบรอบ 63 ปี ของการได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักรของไนจีเรีย ประธานาธิบดีไนจีเรียได้กล่าวสรุปมาตรการที่เขากล่าวว่า จะช่วยบรรเทาทุกข์ของผู้คนจากความยากลำบากทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน
“ไม่มีความสุขเลยที่ได้เห็นผู้คนในประเทศนี้แบกภาระ ที่ควรจะต้องขจัดออกไปเมื่อหลายปีก่อน” ทินูบูกล่าว “ผมหวังว่าวันนี้จะไม่มีความยากลำบาก แต่เราต้องอดทนหากจะไปถึงด้านดีของอนาคต” ทินูบูในวัย 71 ปียังกล่าวย้ำว่า แม้การปฏิรูปจะเจ็บปวด แต่ก็คุ้มค่า เพราะขณะนี้ รัฐบาลไนจีเรียสามารถจัดสรรเงินได้หลายพันล้าน ที่จะช่วยประหยัดจากเงินอุดหนุนเชื้อเพลิงให้กับโครงการต่างๆ อาทิ เครือข่ายรถเมล์ก๊าซธรรมชาติอัด
“ตอนนี้เราแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการไปถึงอนาคตในไนจีเรีย ที่ซึ่งความอุดมสมบูรณ์และผลไม้ของประเทศมีการแบ่งปันกันอย่างยุติธรรมในหมู่คนทุกคน ไม่ถูกกักตุนไว้โดยคนกลุ่มน้อยที่คัดเลือกและละโมบ” ทินูบูกล่าว "ไนจีเรียที่ความหิวโหย ความยากจน และความยากลำบากถูกผลักไสเข้าสู่เงามืดของอดีตที่ไม่มีวันจางหาย"
สหภาพแรงงานหลักในไนจีเรีย ได้แก่ สภาแรงงานไนจีเรีย (NLC) และสภาสหภาพแรงงาน (TUC) กล่าวว่าพวกเขาจะดำเนินการหยุดงานประท้วงอย่างไม่มีกำหนด ตามแผนตั้งแต่วันอังคาร (3 ต.ค.) เป็นต้นไป ทั้งนี้ ผู้นำสหภาพแรงงานยืนยันว่า รัฐบาลไนจีเรียล้มเหลวในการจัดการกับความทุกข์ทรมานที่เกิดจากการยกเลิกการอุดหนุนเชื้อเพลิง อย่างไรก็ดี รัฐบาลไนจีเรียได้ร้องขอให้สหภาพแรงงานระงับการนัดหยุดงาน เพื่อให้รัฐบาลมีเวลามากขึ้นสำหรับการเจรจา
ที่มา: