นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.แถลงข่าว ป.ป.ช.ชี้มูล 3 ผู้บริหารบริษัทการบินไทยจำกัด กรณีจัดซื้ออุปกรณ์ห้องนักบิน เอื้อประโยชน์บริษัทเอกชนโดยมิชอบโดย ทำให้ภาครัฐสูญเสียเงิน 147 ล้านบาท โดยเรืออากาศโท อภินันทน์ สุมนะเศรณี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่บริษัทการบินไทย, เรืออากาศโท ณรุจ โกมลารชุน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายทดสอบและพัฒนาการบิน และเรืออากาศเอก ประสาท ขุนอินทร์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการ เป็นผู้ถูกกล่าวหาที่ 1- 3 ที่ได้ดำเนินการจัดซื้ออุปกรณ์ในห้องนักบินเพื่อรองรับข้อมูลปฏิบัติการบินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์และระบบกล้องวงจรปิดสำหรับตรวจสอบบริเวณห้องนักบิน
ทั้ง 3 คน ได้กระทำความผิดจากการทำสัญญาจัดซื้อกับบริษัท Global Airwork Inc เมื่อปี 2550 ซึ่งฝ่ายช่าง การบินไทย ยังไม่ได้ดำเนินการจัดซื้อโดยแต่งตั้งคณะกรรมการจัดซื้อและยังไม่มีการอนุมัติจัดซื้อจากคณะกรรมการบริหารของบริษัทการบินไทย แต่เรืออากาศโท ณรุจ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ได้แจ้งบริษัทเอกชนดังกล่าว ให้เตรียมทำสัญญาและดำเนินการโดยเร็ว และ เรืออากาศโทอภินันท์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ลงนามสัญญาจัดซื้อ โดยในสัญญาไม่ได้ระบุว่าเป็นการจัดซื้อด้วยวิธีใด และไม่ได้ระบุว่าได้ดำเนินการโดยคณะกรรมการจัดซื้อและได้รับการอนุมัติจากผู้มีอำนาจจัดซื้อตามระเบียบบริษัทการบินไทยหรือไม่ด้วย แต่เรืออากาศเอกประสาท ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 กลับให้ความเห็นชอบ และเมื่อมีการจัดซื้อได้มีการตรวจรับและชำระเงินจำนวนว่า 147,395,028 บาท แต่ปรากฏว่าบริษัทเอกชนดังกล่าว ไม่สามารถดำเนินการตามสัญญาได้ บริษัทการบินไทย จึงทำการเลิกสัญญาเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2551
คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงที่มีพลตำรวจเอกสถาพร หลาวทอง ป.ป.ช.เป็นประธานคณะอนุกรรมการแล้ว มีมติว่า การกระทำของ เรืออากาศโท อภินันทน์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และเรืออากาศโท ณรุจ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มีมูลเป็นความผิดอาญา ฐานร่วมกันใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต และฐานร่วมกันเป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วย ความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ ปี 2502 มาตรา 8 และมาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และมีมูลความผิดทางวินัยร้ายแรง ส่วนเรืออากาศเอกประสาท ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 มีมูลเป็นความผิดอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุนด้วย นอกจากนี้ ป.ป.ช.ชี้มูลเพิ่มคดีทุจริตเงินทอนวัด 5 วัดใน 3 จังหวัด ประกอบด้วยวัดในจังหวัดอำนาจเจริญ 1 แห่ง จังหวัดตาก 3 แห่งและจังหวัดเพชรบุรีอีก 1 แห่ง มีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 26 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: