วานนี้ (2 ก.พ. 2567) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเผยแพร่ข้อความระบุว่า เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง อดอาหาร-น้ำ ประท้วงวันที่ 7อาการไม่สู้ดี ให้ทนายทำพินัยกรรม หากถึงแก่ชีวิต ขณะเจ้าหน้าที่พยายามหยดน้ำหวานจากกระบอกฉีดยาลงปากบุ้งขณะหลับ
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนยังเผยอีกว่าอาการล่าสุด น้ำหนักบุ้งลดลงไปเหลือ 75 กิโลกรัม ฉี่แทบจะไม่ออกแล้ว อ้วกหลายรอบ ครั้งนี้เป็นสีส้ม กลางคืนนอนไม่ค่อยได้เลย ก่อนกลับบุ้งบอกว่ามือชา เท้าชาอีกแล้ว ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนยังเผยอีกว่าบุ้งยังเซ็นพินัยกรรมมอบทรัพย์สินให้ “หยก” และ “พี่สาว” หากถึงแก่ชีวิต ขอให้ทนายความจัดทำให้แล้ว โดยเนื้อหาทุกอย่างในพินัยกรรมเป็นไปตามเจตนารมณ์ของบุ้ง
(ภาพจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน)
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนยังระบุอีกว่าช่วงบ่ายวานนี้ทนายความเข้าเยี่ยมอีกครั้ง ทนายลงคิวเยี่ยมไว้เวลา 14.00 น. แต่กว่าบุ้งจะลงมาพบได้ก็เป็นเวลาประมาณ 15.35 น. แล้ว
บุ้งไม่สามารถเดินมาเองได้ ต้องนั่งบนรถเข็นให้อาสาพยาบาล 4-5 คนช่วยกันยกลงมาจากชั้น 3 แล้วเข็นมาส่งที่ห้องเข้าเยี่ยม
หลังจากพบแพทย์ บุ้งแจ้งว่าค่าเลือดยังคงปกติ ส่วนค่าอื่น ๆ ไม่ทราบแน่ชัด โดยจะได้พบแพทย์อีกครั้งในวันจันทร์นี้
เมื่อวานขณะที่บุ้งนอนหลับตาพักผ่อนอยู่ ผู้คุมได้พยายามเอา “น้ำหวานใส่ไซริ้ง”#มาหยดที่ปากบุ้ง แต่บุ้งรู้สึกตัวทันจึงเม้มปากไว้ บุ้งไม่ทันเห็นว่าเป็นใคร เพราะลืมตามามันก็พร่ามัว
บุ้งคิดว่าผู้คุมคงพยายามจะช่วยบุ้ง แต่บุ้งคิดว่าการทำแบบนี้อาจอันตรายถึงชีวิตได้
บุ้งจะใช้ชีวิตบุ้งที่มีอยู่ประจานความไม่ยุติธรรมของศาล บุ้งยืนยันว่า #ต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม สิ่งศาลทำกับบุ้ง ศาลจะต้องชดใช้มัน