นายไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทยในฐานะผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรค พร้อมผู้สนับสนุน เข้ายื่นหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.เพื่อทวงถามความคืบหน้ากรณีร้องเรียนเลือกตั้งใหม่เขต 17 หนองจอก เนื่องจากมีการซื้อเสียงหรือทุจริตการเลือกตั้งของพรรคการเมืองหนึ่ง โดยได้ยื่นเรื่องคัดค้านการเลือกตั้งเขต 17 กทม.ต่อ กกต.ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2562 ซึ่งวันนี้ กกต.ได้นัดพยานมาให้ถ้อยคำด้วย
นายไพโรจน์ กล่าวถึงการกระทำผิดว่า ผู้สมัครพรรคการเมืองหนึ่งได้นำเงิน 5,000 บาทและเสื้อพรรคการเมือง 2 ตัว มามอบให้กับ "นางวราภรณ์ ขันทิพย์ " ประธานชุมชนก้าวใหม่พัฒนาและยังฝากให้บุตรชายของนางวราภรณ์ เพื่อจูงใจให้ช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครที่มอบเงินให้ แต่นางวราภรณ์ ได้นำเงินดังกล่าวไปคืนให้กับผู้สมัครคนดังกล่าวในวันถัดมา โดยมีภาพถ่ายปรากฏเป็นหลักฐาน มีภาพศูนย์ประสานงานหรือที่ทำการของพรรคการเมืองนั้นปรากฎด้วย หลังจากนั้นนางวราภรณ์ ถูกต่อว่าและข่มขู่ทางโทรศัพท์ซึ่งมีคลิปเสียงที่บันทึกไว้เป็นหลักฐานและส่งให้ กกต.แล้วตั้งแต่ยื่นเรื่อง
นายไพโรจน์ ยังเรียกร้องให้ กกต. มีความเป็นกลาง ทำงานอย่างอิสระไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีอำนาจ เนื่องจากการสืบสวนสอบสวนในชั้นต้นของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสำนักงาน กกต.ก่อนส่งให้ กกต.ทั้ง 7 คนพิจารณากรณีนี้ มีลักษณะข่มขู่นางวราภรณ์ ทั้งประเด็นหลักฐานคือเสื้อ 2 ตัวไม่เพียงพอและขู่ว่า"ระวังถูกฟ้องกลับ" ซึ่งนายไพโรจ์ อยู่ในเหตุการณ์ด้���ย จึงไม่สบายใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากมองว่า กกต.ควรให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าว ซึ่งเป็นความผิดร้ายแรง โดยมุ่งตรวจสอบว่า มีการกระทำผิดจริงหรือไม่เพราะกรณีนี้มีพยานและหลักฐานชัดเจน
ดังนั้นหากนักการเมืองเริ่มต้นด้วยการโกงแล้วเมื่อเข้าไปมีอำนาจก็จะต้องโกงต่อไปอีก ที่สำคัญ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนของ กกต.ไม่ควรบั่นทอนกำลังใจ หรือพยายามทำให้พยานหรือผู้พบเห็นการทุจริต ซึ่งถือเป็นพลเมืองดี ให้เลิกราในการดำเนินการกับผู้กระทำผิด ซึ่งนายไพโรจน์ มองว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง