จากกรณี 'สามเณรสหรัฐ สุขคำหล้า' หรือ 'เณรโฟล์ค' แนวร่วมราษฎรศาลายาเพื่อประชาธิปไตย ถูกเจ้าหน้าที่สำนักงานพุทธศาสนาและเจ้าหน้าที่ตำรวจคุกคาม โดยอ้างว่าเณรโฟล์คพักอาศัยที่บ้านนักกิจกรรม ผิดข้อห้ามตามกฎหมาย พ.ร.บ. คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 เมื่อวันที่ 23 ก.พ.

สามเณรสหรัฐ บอกกับ 'วอยซ์' ว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาเห็นว่าที่พักไม่น่าใช่ปัญหา เพราะหากใช้มาตราฐานเดียวกัน พระรูปอื่นที่ไปประชุมหรืออบรมตามต่างจังหวัด แล้วพักที่โรงแรมก็อาจจะเข้าข่ายความผิดเช่นเดียวกัน แต่สามเณรโฟล์คเชื่อว่าเหตุผลในการคุกคามครั้งนี้ "สำนักพุทธศาสนาจงใจจะจับผมมากกว่า"

"พระสูตรชื่อ ธาตุภวังคสูตร ที่พระพุทธเจ้าไปเมืองมคธ ไปเมืองมคธชนบท และไปพักที่บ้านช่างหม้อชื่อว่าภัคคาวะ กับพระปกกุสาติ ที่โรงหม้อ และสนทนาธรรมกัน แต่ตอนพระปุกสาติไม่รู้ว่าเป็นพระพุทธเจ้า แต่พอสนทนาธรรมกันอยู่หลายคืนที่จนพระปุกกุสาติจนบรรลุธรรม แต่ก็ไม่ผิดพระวินัยอันใด และยังบรรลุธรรมอรหันต์ ไม่ผิดสมณะวิสัย และแบบนี้สำนักงานพุทธศาสนาจะจับพระพุทธเจ้าด้วยไหม"

สำหรับเป้าหมายในอนาคตสามเณรสหรัฐ เตรียมล่ารายชื่อเพื่อยุบสำนักพุทธศาสนา ส่วนเหตุการณ์คุกคามจะมีการยื่นหนังสือถึงยูเอ็นเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม

เมื่อถามว่าในอนาคตยังคงจัดกิจกรรมหรือขึ้นปราศรัยหรือไม่ เขาเน้นย้ำตรงนี้ว่า "ผมออกมาเคลื่อนไหวแน่นอน" พร้อมเสริมอีกว่าเขานั้นไม่ต้องเสียต้นทุนชีวิต ทว่าหลายคนที่ออกมาชุมนุมต้องเสี่ยงกับการถูกคุกคามและดำเนินคดี

"ประชาชนที่เขาออกมาต้องยอมเสียต้นทุนชีวิต ส่วนเราคือคนที่ขอข้าวเขากิน จึงเห็นว่าควรออกไปแสดงจุดยืนเพื่อเป้าหมายของคนในสังคม"

สำหรับกระแสด้านลบและข้อครหาภาพลักษณ์พระออกมาเคลื่อนไหว เณรโฟล์คเห็นว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นเรื่องธรรมดาที่มนุษย์ทุกคนจะวิพากษ์วิจารณ์ แม้แต่พระเยซูหรือพระพุทธเจ้ายังวิจารณ์ได้ 

"มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะถูกติฉินนินทาจากคนในสังคม ในสมัยโบราณกาลยังมีการปาหินหรือวิพากษ์วิจารณ์ศาสดา จึงอยากให้การตั้งคำถามถึงสถาบันกษัตริย์สามารถทำได้เช่นเดียวกัน โดยไม่ต้องมีใครถูกจับ"

หยุดคุกคามเสรีภาพของประชาชน 

ทั้งนี้แนวร่วมราษฎรศาลายาเพื่อประชาธิปไตย ได้ออกแถลงการณ์กรณีบุกค้นบ้านพักนักกิจกรรม ซึ่งมีเนื้อหาระบุว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยมีพระวินยาธิการ(ตำรวจพระ) กับเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ ขอเข้าค้นบ้านพักนักกิจกรรมแนวร่วมราษฎรศาลายาโดยไม่มีหมายค้น อ้างว่ามีประชาชนบริเวณใกล้เคียงส่งรูปสามเณรโฟล์ค สหรัฐ ในลักษณะกำลังเข้า-ออก บ้านพักดังกล่าว เพื่อร้องเรียนว่าเป็นการผิดลักษณะการประพฤติของสงฆ์ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ก็รับทราบดีว่าบ้านนี้เป็นบ้านพักนักกิจกรรม และมีผู้ต้องหาคดี ม. 112 

แต่ที่มาวันนี้เพียงต้องการนำตัวสามเณรสหรัฐ สุขคำหล้า(สามเณรโฟล์ค) ไปที่วัดบางโพธิ์เพื่อต้องการพูดคุยเป็นการส่วนตัว ส่วนเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ มาเพียงเพื่ออำนวยความสะดวก และระบุสถานที่ของบ้านพักเท่านั้น แต่ถ้าไม่ให้เข้าตรวจค้น จะให้ตำรวจทำการออกหมายทันที ซึ่งการกระทำดังกล่าวผิดหลักกฎหมาย ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และเป็นการคุกคามประชาชนอย่างยิ่ง 

นอกจากนี้ยังพบลักษณะการกระทำของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่เมื่อวานเวลาประมาณ 15:00 น. เราได้สังเกตเห็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบได้ทำการเฝ้าติดตาม และเก็บรูปภาพบ้านพักโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ในท้ายที่สุดแล้วเราแนวร่วมราษฎรศาลายาจึงอนุญาตให้ทำการตรวจค้นบ้าน เพื่อเป็นการให้เกียรติพระวินยาธิการกับเจ้าหน้าที่ และแสดงความบริสุทธิ์ใจ 

จากเหตุการณ์ดังกล่าวเราแนวร่วมราษฎรศาลายาขอแจ้งว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ ที่เข้ามาขอตรวจค้นและขอพบสามเณรสหรัฐ สุขคำหล้า โดยที่ไม่มีเอกสารหมายค้น เป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิ เสรีภาพ แสดงออกถึงการคุกคามข่มขู่สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนโดยอ้างการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เราแนวร่วมราษฎรศาลายาขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหยุดใช้อำนาจ และศาสนาเป็นเครื่องมือสร้างความชอบธรรมในการคุกคาม สิทธิ และเสรีภาพของประชาชน