ไม่พบผลการค้นหา
เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ร้อง ป.ป.ช.ตรวจสอบ 'รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย' อาจมีพฤติกรรมเข้าข่ายขัดขวางการจัดซื้อจัดหาวัคซีนโควิด-19 ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นหนังสือต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เพื่อตรวจสอบ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อาจมีพฤติกรรมเข้าข่ายขัดขวางการจัดซื้อจัดหาวัคซีนโควิด-19 ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ซึ่งในกฎหมายไม่ได้บังคับไว้ว่าห้ามทำ แต่อาจเป็นการเข้าใจผิดในคำวินิจฉัยของสำนักงานผู้ตรวจเงินแผ่นดิน 

ทั้งนี้อาจเป็นเจตนาแฝงอย่างอื่นหรือไม่ เนื่องจากมีการเลือกซื้ิอวัคซีนโควิด-19 เฉพาะในแถบเอเชีย แต่ไม่เลือกซื้อทางฝั่งยุโรป เพราะมีการการทำข้อมูลการจัดซื้ออย่าละเอียดและไม่มีการติดสินบนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าการบริการจัดซื้อและฉีดวัคซีนของรัฐมีความล่าช้า หากต้องรอจัดซื้อวัคซีนของรัฐเพื่อฉีดให้ประชาชนทั้งประเทศภายในปี64 นี้ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน ดังนั้นจึงเห็นด้วยที่ให้เอกชนจัดซื้อผ่านหน่วยงานรัฐ เพื่อให้การกระจายวัคซีนได้เร็วขึ้น 


มองยุทธวิธีดึงเรืองไกรร่วม พปชร.

พร้อมกันนี้ ศรีสุวรรณ ยังให้ความเห็นถึงกรณีที่ เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เป็นหนึ่งในกรรมาธิการงบประมาณ ปี2565 ว่า ก็เป็นสิทธิขอเรืองไกร ไม่เกี่ยวกับตนเองจะเอามาเทียบกันไม่ได้ จึดยืนขอตนคือตรวจสอบการทำงานของนักการเมืองทุกพรรค ดังนั้นการที่บุคคลดังกล่าวเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอาจจะเป็นอุดมการณ์ส่วนตัว 

ทั้งนี้ มองว่าการไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ ประชาชนอาจจะมองได้ว่ามีเรื่องคดีความที่ เรืองไกรเป็นโจทย์ฟ้องพรรคพลังประชารัฐหลายคดี เข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะเรืองไกรก็เป็นโจทย์ฟ้องฝั่งรัฐบาลไว้เยอะ ฉะนั้นทางที่ดีคือการที่ดึงศัตรูมาเป็นมิตร อาจจะเป็นยุทธวิธีหนึ่งของรัฐบาล