นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูฝนทำให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนักและอาจเกิดน้ำท่วมขัง จนทำให้รถยนต์หลายคันจำเป็นต้องขับรถลุยน้ำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเป็นเหตุให้แผ่นป้ายทะเบียนรถหล่นหาย หรือทำให้ตัวยึดแผ่นป้ายเกิดสนิมและทำให้ตัวแผ่นป้ายทะเบียนรถหลุดหล่น จึงขอแนะนำเจ้าของรถควรตรวจสอบการยึดติดแผ่นป้ายทะเบียนรถทั้งด้านหน้าและท้ายรถให้มีความมั่นคงแน่นหนา เพื่อป้องกันการหลุดหล่นระหว่างการขับรถ
อย่างไรก็ตาม สำหรับเจ้าของรถที่เกิดกรณีแผ่นป้ายทะเบียนรถหล่นหาย สามารถขอรับแผ่นป้ายทะเบียนรถทดแทนได้ทันทีโดยไม่ต้องแจ้งความ โดยติดต่อยื่นคำขอ ณ สำนักงานขนส่ง ที่รถนั้นอยู่ในความรับผิดชอบ หลักฐานที่ต้องใช้ ประกอบด้วย คู่มือจดทะเบียนรถฉบับจริง บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริงของเจ้าของรถ
กรณีเป็นนิติบุคคล ต้องมีหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล ไม่เกิน 1 ปี และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการที่มีอำนาจลงนามทุกคน กรณีไม่มาดำเนินการด้วยตัวเอง ต้องมีหนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบอำนาจมาแสดงด้วย โดยมีค่าธรรมเนียมแผ่นป้ายละ 100 บาท ค่าคำขอ 5 บาท และจะได้รับแผ่นป้ายทะเบียนรถภายใน 15 วันทำการ โดยระหว่างนี้สามารถใช้ใบเสร็จรับเงินแทนแผ่นป้ายทะเบียนรถเป็นการชั่วคราวได้
ทั้งนี้ ในกรณีรถติดไฟแนนซ์ สามารถติดต่อไฟแนนซ์เพื่อให้ดำเนินการแทน หรือหากต้องการดำเนินการด้วยตนเอง ต้องใช้คู่มือจดทะเบียนรถฉบับจริง และบัตรประจำตัวประชาชนผู้เช่าซื้อ หนังสือรับรองจากบริษัทไฟแนนซ์ หนังสือมอบอำนาจจากไฟแนนซ์พร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ทันทีที่พบว่าป้ายทะเบียนรถหล่นหายเจ้าของรถควรรีบดำเนินการขอรับแผ่นป้ายทะเบียนรถทดแทนทันที ห้ามทำแผ่นป้ายทะเบียนรถขึ้นเองโดยเด็ดขาด เนื่องจากมีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ฐานใช้แผ่นป้ายทะเบียนมีลักษณะไม่ถูกต้องตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท
เช่นเดียวกับกรณีเจตนาขูด ลอก ลบ เลือน หรือติดสติ๊กเกอร์บดบังส่วนหนึ่งส่วนใดของแผ่นป้ายทะเบียนรถ ตกแต่งลวดลายเลียนแบบป้ายทะเบียนประมูล หรือใช้กรอบป้ายสกรีนลายกราฟิกครอบแผ่นป้ายทะเบียนรถทำให้มองเป็นป้ายทะเบียนประมูล มีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท
จึงขอให้เจ้าของรถระมัดระวังการใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่ง หรือโทรสายด่วน 1584
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :