ระหว่างพบปะนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่เข้าร่วมโครงการ “รินน้ำใจสู่พี่น้องชาวใต้” ที่โรงเรียนนราธิวาส ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เน้นย้ำเรื่องการดูแลตนเอง กรณีต้องเผชิญกับปัญหาฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 พร้อมขอให้สถานศึกษา มีความเป็นกลางทางการเมือง อย่าให้ใครมายุยงได้ ประเทศไทยมีความเป็นหนึ่งเดียวแบ่งแยกมิได้ 

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุตอนหนึ่งว่า "ปัญหาฝุ่นละอองขนาด PM 2.5 ที่มีปัญหาอยู่ในเมืองใหญ่ๆ ของเราคงไม่ค่อยเท่าไร เรื่องไฟป่า ไฟไหม้เยอะแยะไปหมด รัฐบาลต้องเอามาคลี่ดูหมดว่าใครทำบ้าง แล้วปัญหาแต่ละปัญหามีแต่คนทำทั้งสิ้น มันเกิดจากประชาชน ผมก็โทษประชาชนไม่ได้เหมือนกัน แต่ต้องร่วมมือกันกฏหมายมันมีอยู่ ถ้าให้ผมไปดำเนินการคดีทั้งหมดท่านก็เดือดร้อน ท่านก็ช่วยผมสิครับนะ การเผาวัชพืชจะทำยังไง เผาน้อยลงไม่เผาได้ไหม"

"หลายคนที่เขาเดือดร้อนก็บอกว่าไปจับให้หมดเลยใครเผา มันมีคนสองฝ่ายเสมอ วันนี้สิ่งที่มีปัญหาในวันนี้ PM 2.5 คือ มันเกิดจากจราจร 72 เปอร์เซ็นต์ ในเรื่องของเผาวัชพืชประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ ในเรื่องอุตสาหกรรมประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์แล้วที่เหลือก็อื่นๆ หายใจออกมาเท่าไร แต่ทั้งหมดมันมีขนาดของฝุ่นที่มีปัญหาอยู่ PM 2.5 มันขนาดเล็กมีผลต่อผู้อายุน้อยๆ เด็กทารก คนมีครรภ์ คนชรา คนที่มีโรคประจำตัว นอกนั้นแข็งแรงพอสู้ไหวอย่างผม อย่างผมนี่ยังพอไหว ถ้าใครรู้ว่าเสี่ยงก็ปิดจมูก ใส่หน้ากากถ้าคิดว่าตัวเองไม่ปลอดภัย"

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า เรื่องน้ำท่วม ฝนแล้งก็มีปัญหาจากปลูกสิ่งก่อสร้าง ขวางทางน้ำ ไม่ได้ขุดลอกทำให้ทางน้ำไหลไปทั่ว บางทีไม่เคยท่วมก็ต้องท่วม สิ่งเหล่านี้นี้ต้องช่วยกัน เราจะไปห้ามทั้งหมดไม่ได้ 

เมื่อนายกรัฐมนตรี ถามถึงความฝันและอาชีพในอนาคต มีเด็กนักเรียนบางส่วนตอบว่า อยากเป็นนายกรัฐมนตรี เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้นายกรัฐมนตรีได้มาก ก่อนกล่าวติดตลกว่า ใครอยากเป็นนายกรัฐมนตรี มาเอาไปเลย เดี๋ยวก็จะรู้เอง และเมื่อนายกรัฐมนตรี ถามเด็กนักเรียนว่าเพลงสมัยใหม่ มีเพลงอะไรบ้าง ทุกคนก็พร้อมใจกันร้องเพลงคืนความสุขให้ประเทศไทย ทำให้นายกรัฐมนตรี อารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด

ก่อนนักเรียนจะหักมุม ยอมรับกับนายกรัฐมนตรี ว่า เชื่อในสิ่งที่พรรคการเมืองอื่นให้ข้อมูล และชอบพรรคการเมืองนั้นด้วย ทำให้นายกรัฐมนตรี ถึงกับบอกว่า ตอบแบบนี้กลับดีกว่า ก่อนครวญเพลงเชื่อฉัน ขอความเห็นใจในทันที ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี บอกกับนักเรียนว่า พรรคฝ่ายค้านเตรียมที่จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไล่นายกรัฐมนตรีแล้ว จึงขอกำลังใจด้วย ขณะที่เด็กนักเรียนเสียงแตก มีทั้งให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีและฝ่ายค้าน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า บ้านเมืองวันนี้ต้องเปลี่ยนแปลง ลดความขัดแย้งให้มากที่สุด ถ้ายังขัดแย้งอยู่ ก็บริหารงานอะไรไม่ได้ ส.ส. มีหน้าที่รับข้อมูลจากประชาชน เอามาให้รัฐบาลขับเคลื่อน ทุกอย่างเป็นกลไกที่มีอยู่แล้ว ทุกกฎหมายที่ออกมามีความถูกต้อง ขึ้นอยู่ว่าจะบังคับใช้อย่างไรจะมาอ้างว่าไม่เข้าใจกฎหมายไม่ได้ เช่น ต้องรู้กฎหมายไม่ไปละเมิดคนอื่น ไม่กีดขวางการจราจร การรวมกลุ่มชุมนุมโดยเฉพาะในเขตเมือง จะต้องไม่สร้างความเดือดร้อน หรือ เพิ่มงานให้เจ้าหน้าที่จึงอยากให้ทุกอย่างเรียบร้อยเป็นไปด้วยดี ส่วนเรื่องการทุจริตว่าตามขั้นตอน ไม่ใช่เรื่องที่จะพูดลอยๆ หากเป็นเช่นนี้ทุกอย่างก็ผิดหมด วันนี้หลายเรื่องยังไม่มีการดำเนินคดีใดๆ ยังบอกว่าผิด ยืนยันทุกอย่างถูกต้องว่า ตามกฎหมายข้อเท็จจริง ไม่เช่นนั้นทุกฝ่ายก็ท้อแท้กันหมด