โมฮัมเหม็ด บิน อับดุลราห์มาน อัล ทานี นายกรัฐมนตรีกาตาร์ กล่าวว่าเขายังคงมองโลกในแง่ดีในการเจรจาเพื่อหาข้อตกลงการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับฮามาส อย่างไรก็ดี เขากลับระบุเสริมว่า "เวลาไม่เข้าข้างเรา"
การออกมาแถลงของนายกรัฐมนตรีกาตาร์ เกิดขึ้นในขณะที่ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลออกมากล่าวว่า เขาจะเดินหน้าแผนบุกโจมตีภาคพื้นดินในเมืองราฟาห์ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากนานาชาติต่ออิสราเอลเพิ่มขึ้นก็ตาม
ทั้งนี้ กลุ่มฮามาสได้ออกมากล่าวโทษอิสราเอลว่าขาดความคืบหน้าในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ในระหว่างที่การเจรจาได้จัดขึ้นเกิดขึ้นในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่อาวุโสจากสหรัฐฯ อิสราเอล อียิปต์ และกาตาร์เข้าพบกันเพื่อพยายามเจรจาหาข้อยุติการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับฮามาสลงชั่วคราว
“รูปแบบในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา (ไม่) มีแนวโน้มมากนัก แต่อย่างที่ผมย้ำอยู่เสมอ เราจะยังคงมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ และจะยังคงผลักดันต่อไป” ชีค โมฮัมเหม็ด กล่าวในการประชุมผู้นำโลกที่การประชุมความมั่นคงมิวนิก “ผมเชื่อว่าในข้อตกลงนี้ เรากำลังพูดคุยกันในระดับที่ใหญ่กว่า และเรายังคงเห็นความยากลำบากบางประการในด้านมนุษยธรรมของการเจรจาเหล่านี้”
อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีกาตาร์กล่าวว่าการพักรบไม่ควรขึ้นอยู่กับข้อตกลงในการปล่อยตัวประกันจากอิสราเอลที่กลุ่มฮามาสยังคงจับกุมตัวไว้อยู่ “นี่คือภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่เราเผชิญอยู่ และน่าเสียดายที่หลายประเทศนำมันไปใช้ในทางที่ผิด เพื่อที่จะได้การหยุดยิง การมีข้อตกลงตัวประกันจึงมีเงื่อนไข” ชีค โมฮัมเหม็ดกล่าว
ในอีกด้านหนึ่ง เนทันยาฮูกล่าวว่าเขาได้ส่งผู้เข้าร่วมเจรจาตามคำขอของ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวเสริมว่า ผู้เข้าร่วมการเจรจาจากฝ่ายอิสราเอลไม่ได้กลับเข้ามาหารือใดๆ เพิ่มเติมอีก เพราะข้อเรียกร้องของกลุ่มฮามาสนั้นเป็น "ภาพลวงตา"
กลุ่มผู้เข้าร่วมการเจรจาได้ยื่นข้อเรียกร้องหลายประการ รวมถึงการแลกเปลี่ยนตัวประกันกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ การถอนกำลังทหารของอิสราเอลโดยสมบูรณ์ และการยุติสงครามหลังจากหยุดการสู้รบเป็นเวลา 135 วัน โดยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ
ก่อนหน้านี้ ฮามาสได้บุกเข้าสังหารผู้คนอย่างน้อย 1,200 คนและจับประชาชนเป็นตัวประกันไป 253 คน ในการโจมตีพื้นที่ทางตอนใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ในทางกลับกัน กระทรวงสาธารณสุขในฉนวนกาซาระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. มีประชาชนปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วมากกว่า 28,800 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก หลังจากอิสราเอลเปิดปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ในฉนวนกาซา
ในการแถลงข่าวที่กรุงเทลอาวีฟเมื่อวันเสาร์ (17 ก.พ.) เนทันยาฮูกล่าวย้ำถึงเป้าหมายของเขาในการทำลายล้างกลุ่มฮามาส และนายกรัฐมนตรีอิสราเอลยังได้กล่าวว่า กองกำลังของอิสราเอลจะต่อสู้จนกว่าอิสราเอลจะได้รับ “ชัยชนะโดยสมบูรณ์”
เนทันยาฮูกล่าวว่าการต่อต้านปฏิบัติการทางทหารในเมืองราฟาห์ อันเป็นเมืองในฉนวนกาซาทางตอนใต้สุด ซึ่งมีผู้คนประมาณ 1.5 ล้านคนกำลังหลบหนีภัยสงครามอยู่ในนั้น เป็นการบอกกับอิสราเอลให้ "แพ้สงคราม" อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกันนี้ เนทันยาฮูกล่าวเสริมว่ากองทหารอิสราเอลจะบุกเข้าพื้นที่ราฟาห์ แม้ว่าอิสราเอลจะบรรลุข้อตกลงตัวประกันก็ตาม
ในช่วงแรกของสงคราม อิสราเอลได้สั่งให้ชาวปาเลสไตน์หาที่หลบภัยไปยังเมืองราฟาห์ ในขณะที่กองทัพอิสราเอลเคลื่อนทัพเข้าโจมตีเมืองทางตอนเหนือของพื้นที่ที่ถูกปิดล้อม ทั้งนี้ ในสัปดาห์นี้ ทางการอิสราเอลกล่าวว่า พวกเขาต้องการให้พลเรือนปาเลสไตน์ย้ายไปยังพื้นที่ที่พวกเขาเรียกว่าเป็น "เขตมนุษยธรรม" ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรมหลวมๆ ตามแนวชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอย่างอัล-มาวาซี
ในทางตรงกันข้าม ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกมาเรียกร้องให้อิสราเอลอย่าเปิดฉากโจมตีราฟาห์ หากอิสราเอลไม่มีแผนที่จะรักษาความปลอดภัยให้กับพลเรือนปาเลสไตน์ในพื้นที่ โดยปัจจุบันนี้ เนทันยาฮูยังคงเผชิญกับแรงกดดันในประเทศ จากข้อเรียกร้องของประชาชนที่ต้องการให้นำตัวประกันที่ยังคงอยู่ในฉนวนกาซากลับบ้าน
ทั้งนี้ มีผู้ประท้วงหลายพันคนรวมตัวกันในกรุงเทลอาวีฟเมื่อวันเสาร์เพื่อเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้า ซึ่งไม่มีกำหนดไว้จนกว่าจะถึงปี 2569 ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีอิสราเอลยังปฏิเสธเสียงเรียกร้องในลักษณะเดียวกันจากภายในพรรคลิคุดฝ่ายรัฐบาล ที่ต้องการให้มีการจัดการเลือกตั้งทันที หลังจากความขัดแย้งของอิสราเอลกับฉนวนกาซาสิ้นสุดลง โดยเนทันยาฮูกล่าวว่าการยุบสภาจะ "แบ่งแยกเราทันที"
ในขณะเดียวกัน กลุ่มฮามาสกล่าวโทษอิสราเอลว่าขาดความคืบหน้าในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และขู่ว่าพวกเขาจะระงับการมีส่วนร่วมใดๆ เว้นแต่จะมีการเปิดให้มีการส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้ามาในพื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา ในขณะเดียวกัน หน่วยงานบรรเทาทุกข์กล่าวว่า พวกเขามีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการขาดแคลนอาหาร น้ำ และยารักษาโรคในพื้นที่ฉนวนกาซาที่รุนแรงขึ้น
ที่มา: