เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ของรัฐบาล ว่า เห็นสัญญาณบวก ในแง่ของการเห็นปัญหานโยบายการเงิน ที่มีแต่กรอบวงเงิน แต่สินเชื่อไม่ถึงมือประชาชน เห็นด้วยกับแพคเกจสินเชื่อล่าสุด การค้ำประกันสินเชื่อ PGS Soft Loan ของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และการเพิ่มบทบาทสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อโดยตรง แต่ทั้งนี้การระบุว่า บสย.จะค้ำประกันได้เฉพาะผู้กู้ตามเงื่อนไขตาม พ.ร.ก. ซอฟท์โลน ยังคงเป็นปัญหาและต้องเร่งแก้ไข
เผ่าภูมิ กล่าวว่า แต่ในขณะเดียวกันก็เห็นสัญญาณลบ ด้านนโยบายการคลัง ซึ่งเหมือนจะถูกละเลย เข้าใจดีว่าทีมชุดใหม่นี้มาจาก “สายการเงิน สายธนาคาร” แต่พึงระลึกว่า นโยบายการเงินช่วยประคองไม่ให้บริษัทล้มตายก็จริง แต่นโยบายการคลังเท่านั้นที่จะเป็นตัวดึงเศรษฐกิจขึ้นจากเหวได้ ซึ่งจนถึงวันนี้ยังไม่เห็นวิสัยทัศน์และแนวทางการผลิตนโยบายการคลังของทีมชุดใหม่ว่าจะมีทิศทางอย่างไร ต่างจากแบบเดิมๆที่เคยล้มเหลวไหม
"อยากฝากว่านโยบายการคลัง ที่ทำๆกันอยู่ในทีมชุดก่อน มันเป็นแค่เปลือก หรือภาพทางการตลาดเท่านั้น และเป็นมาตั้งแต่ก่อนโควิด-19 แล้วด้วย มาตรการลักษณะแบบชิมช็อปใช้ต่างๆ ช้อปช่วยชาติ จนมาถึงมาตรการเราเที่ยวด้วยกันในปัจจุบัน เหล่านี้ไม่ใช่คำตอบ สิทธิ์การเข้าพัก 5 ล้านคืน ที่มีผู้ใช้เพียง 500,000 คืน หรือเพียง 10% เป็นภาพฟ้องว่าแก่นของปัญหาจริงมันไม่ได้ถูกแก้ ท่านกำลังเอาของลดราคามาล่อคนไม่มีเงิน ให้ไปใช้จ่าย การสนับสนุนด้านราคาไม่มีทางสำเร็จหากรากเหง้าของการตกงาน ขาดรายได้ ไม่ได้รับการแก้ไข" เผ่าภูมิ กล่าว
เผ่าภูมิ กล่าวว่า ต้องการนโยบายการคลังที่เข้มข้น ทั้งหมดมุ่งตรงไปสู่การจ้างงาน สร้างการลงทุน และสร้างโครงสร้างคงทนให้กับประเทศ ต้องยึดหลักนี้ให้แม่น แล้วเขียนมาตรการจากหลักนี้ อะไรไม่ตอบโจทย์เรื่องเหล่านี้ต้องหยุดทำ ต้องตัดทิ้ง