ไม่พบผลการค้นหา
ร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปสำคัญ 13 ประเทศ ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ตั้งแต่วันนี้จนถึง 15 มกราคม 2562

พุทธศาสนิกชน ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปสำคัญ เพื่อความเป็นสิริมงคล ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งอัญเชิญมาจาก 12 ประเทศ ประกอบด้วย ภูฏาน, กัมพูชา, จีน, อินเดีย, อินโนมีเซีย, ญี่ปุ่น, สปป.ลาว, มองโกเลีย, เมียนมา, สิงคโปร์, ศรีลังกา, เวียดนาม และไทย เป็นประเทศที่ 13 มาประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง จนถึง 1 มกราคม 2562 จากนั้น จะอัญเชิญไปประดิษฐาน ให้ประชาชนสักการะ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จนถึง 15 มกราคม 2562

เมื่อสักการะพระบรมสารีริกธาตุแล้ว ยังสามารถเดินชม นิทรรศการพระพุทธรูปสำคัญจาก 13 ประเทศ ซึ่งใช้ในริ้วขบวนอัญเชิญฯ เช่น พระพุทธรูปอนิตาภพุทธะ เป็นพระพุทธรูปสีขาวองค์สำคัญของประเทศเวียดนาม ประดิษฐานอยู่ในวัดเฉินก๊วก พระพุทธรูปนี้มีความหมายว่า พระผู้มีแสงส่องสว่างไม่มีประมาณ นั่งประทับบนดอกบัว สัญลักษณ์ของความสมบูรณ์ บริสุทธิ์ ความสงบสุข และปัญญาสุงสุด 

ส่วน วัดเฉินก๊วก สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 จึงได้ชื่อว่าเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ ลักษณะเจดีย์มีความวิจิตรงดงาม สร้างตามขนบของสถาปัตยกรรมทางพุทธศาสนาทุกประการ ในบริเวณวัดมีต้นโพธิ์ใหญ่ ซึ่งเชื่อกันว่า เป็นต้นโพธิ์ที่แตกแขนงมาจากต้นศรีมหาโพธิ์ ที่ประทับเมื่อครั้งตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 

นอกจากนี้ ยังมี พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ พระพุทธรูปยืนที่สูงที่สุดในโลก และวัดกานดาน วัดคู่บ้านคู่เมืองของประเทศมองโกเลียพระบางพุทธลาวัลย์ เป็นพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร ประดิษฐานอยู่ในหอพระบาง เคยอัญเชิญมาประดิษฐานที่กรุงเทพมหานคร 2 ครั้ง และพระธาตุหลวง ของ สปป.ลาว

พระพุทธรูป ดอร์เดนมา พระพุทธศากยมุนี พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในภูฏาน ประทับนั่งบนวัชระอาสน์ และวัดทักซัง สถานที่แสวงบุญในเขตเทือกเขาหิมาลัยที่ได้รับความนับถือมากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บนหน้าผาสูง 900 เมตร 

สำหรับการจัดงานสวดมนต์ข้ามปีครั้งนี้ ถือเป็นปีที่ 14 แล้ว โดยปี 2562 จะพิเศษกว่าทุกปี เนื่องจาก สมเด็จพระสังฆราชจากกัมพูชา และภูฎาน เสด็จมาร่วมกิจกรรมด้วยในช่วงค่ำของวันที่ 31 ธ.ค.61 ต่อเนื่องถึงวันที่ 1 มกราคม 2562 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง