ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ รับหนังสือ 'ผู้เลี้ยงสุกร' รุดให้กำลังใจริมรั้วหน้าทำเนียบรัฐบาล ลุยปราบหมูเถื่อน ลั่นจะสาวให้ถึงตัวการใหญ่ ยันไม่ปกปิด-เอื้อใคร ขอให้อดทนเหตุปัญหานี้หมักหมมมา 3-4 ปี บอกถึงเวลาอาจจะเปิดชื่อนักการเมืองเอี่ยว

วันที่ 12 ธ.ค. เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ปัญหาหมูเถื่อนหลังประชุม ครม. ว่า พยายามติดตามอยู่ และวานนี้ได้เจอกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) โดยมารายงานว่ามีการอายัดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องบ้างแล้ว พร้อมกำชับว่าให้พยายามสาวถึงผู้เกี่ยวข้องต่อไปและดำเนินการต่อไป ซึ่งพยายามว่าจะให้ถึงตัวการใหญ่ แต่จะใหญ่แค่ไหนเท่านั้นเอง 

ส่วนคดีดังกล่าวทาง DSI ได้ยื่นผู้ที่เกี่ยวข้องมีนักการเมืองด้วยใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ก็คงอยู่ในการพิจารณาของ DSI ส่วนจะเปิดชื่อนักการเมืองหรือไม่ก็ว่าไปตามกฎหมาย และหากถึงเวลาคงต้องเปิดชื่อหากไม่เสียรูปคดี

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นรถไปพบกับผู้เลี้ยงสุกรที่มารอมอบดอกไม้ให้กำลังใจและขอบคุณรัฐบาลในการปราบปรามหมูเถื่อน บริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล โดยมีผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ ไชยา พรหมา และ อนุชา นาคาศัย 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ รอรับหนังสือ 

โดย เศรษฐา กล่าวว่า ขอบคุณพี่น้องที่เลี้ยงสุกรทุกท่านที่มาให้กำลังใจ ทีมงานของเรา แต่จริงๆแล้วไม่ต้องมาขอบคุณก็ได้ เพราะเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารอยู่แล้ว ซึ่งปัญหานี้หมักหมมมานานหลายปีแล้ว 3-4 ปีแล้ว ซึ่งรัฐบาลนี้เข้ามาไม่ถึง 3-4 เดือนรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทุกคนก็หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาทำอย่างจริงจัง และเข้าใจว่าจะต้องทำงานกันต่อไป

ส่วนอักษรย่อก็ต้องสาวกันต่อไป แต่ขอความกรุณานิดหนึ่ง เพราะปัญหานี้หมักหมมมานานกว่า 3-4 ปีแล้ว แต่เรามา 3-4 เดือนก็จัดการได้ ฉะนั้นขอให้มีความอดทนหน่อย โดยเราจะมุ่งมั่นทำงานต่อไป โดยจะไม่มีการปกปิดหรือเอื้ออำนวยใครทั้งสิ้น เพราะรัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยเกษตรเข้าใจอย่างเต็มที่ 

นอกจากนี้เรามองข้ามไปอีก ไม่ใช่การปราบหมูเถื่อนอย่างเดียว แต่อะไรที่ประชาชนเดือดร้อนจากเรื่องนี้จะจัดการให้ อาทิ เปลี่ยนพันธุ์หมูก็มีการเตรียมเงินทุนให้ผู้ประกอบการเลี้ยงสุกรรายย่อยและรายกลาง เพื่อให้กลับมาทำอาชีพนี้ พร้อมย้ำว่าขอให้มีความอดทน ซึ่งรัฐบาลนี้เข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชน