นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส เลขาธิการกลุ่มเพื่อไทยพลัส และอดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทยโพสต์เฟซบุ๊กเสนอให้รัฐบาลเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อรองรับฟื้นฟูเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว โดยมีข้อความว่า “ทางรอดของประเทศไทยหลังโควิด” สู่รัฐบาล เพื่อฟื้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว เพื่อกลับมาเป็น Safe Heaven ของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอีกครั้ง
ตอนนี้หลายท่านเริ่มปรับตัวได้สู่สภาพแวดล้อมใหม่ หรือ New Normal แต่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นนี้ ยังมีอีกกลุ่มธุรกิจ และบุคคลที่ “ไม่สามารถปรับตัว” ได้ หากปราศจากแรงผลักดันของรัฐ เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม ร้านนวด ไปจนถึงห้างสรรพสินค้า ขนส่งมวลชนตั้งแต่ สายการบิน , แท๊กซี่ , รถตู้ , รถทัวร์ , ร้านจำหน่ายของฝาก , ร้านจำหน่ายสินค้า OTOP , ร้านทำผม , ร้านอาหาร และภาคธุรกิจที่เน้นการส่งออก
ซึ่งการเยียวยา 5,000 บาทต่อเดือน หรือการรอเงินประกันสังคม (ที่ยังมีปัญหา) อาจไม่สามารถประวิงชีวิตพวกเขาได้อีกยาวนาน อันนี้คือโจทย์ที่ใครๆก็ทราบ เพราะเงินเหล่านั้น ไม่สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายรายเดือน ที่จำเป็นต้องจ่ายปัจจุบันได้อย่างแน่นอน
หากเปรียบเทียบ เงิน 5,000 ต่อเดือนเป็นเสมือน “ยาแก้อักเสบ” สิ่งที่ต้องทำวันนี้คือต้องเปลี่ยนจาก “ยาแก้อักเสบ” เป็น “วิตามิน” ในการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ให้พวกเขาฟื้นกลับมาให้ได้ เช่นการสร้างระบบ “infrastructure” ในการรองรับเศรษฐกิจ และการฟื้นตัวหลังวิกฤตโควิดให้เร็วที่สุด จึงขอเสนอภาครัฐออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน
ส่วนที่ 1.การสำรวจความเสียหาย
ส่วนที่ 2.ขอเสนอให้สู่รัฐบาล
โดยให้เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการกู้ และพัฒนาระบบลงทะเบียนใหม่ และเสนอให้ภาครัฐปลดล๊อคมาตรการกู้เงินที่เป็นข้อ จำกัด เช่น 1.) ทั้งเงื่อนไขการจดทะเบียนบริษัท (บริษัทต้องจดทะเบียนมากกว่า 3 ปี อันนี้ขอให้ตัดออกไปเลย) 2.) ขอให้ภาครัฐช่วยกำกับธนาคาร ของรัฐให้เปลี่ยนจากการใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ สู่การปล่อยเงินกู้ผ่าน การพิจารณาแนวโน้มของธุรกิจ(business model) ของเขาเป็นต้น
ซึ่งขอเสนอให้ออกเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กลุ่มบุคคล และภาคธุรกิจนี้ เพื่อจุดประสงค์ให้เศรษฐกิจระดับย่อยฟื้นตัว และไม่ใช่ขอเงินฟรี แต่เป็นการขอเงินกู้ดอกเบี้ยถูก เพื่อให้ผู้กู้เอาไปโปะเงินกู้ดอกเบี้ยแพง ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยจากธนาคารพาณิชย์ ทั้งบ้าน รถยนต์ บัตรเครดิต และ ที่สำคัญคือ โปะหนี้นอกระบบ เพราะดอกเบี้ยเหล่านั้น คืออุปสรรคที่คอยกดให้เราจมน้ำ หายใจไม่ได้ในทุกวันนี้”
นายตรีรัตน์ ระบุว่า สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เพื่อหวังในการฟื้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ที่ประเทศไทยติดอันดับ 31 จาก 140 ประเทศทั่วโลก และเป็นอับดับ 3 ของอาเซียนรองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย ที่สร้างรายได้กว่าปีละ 1.9 ล้านล้านบาท คิดเป็นอันดับ 1 ของ GDP นี่คือที่มาของเงินที่สามารถกลับมาเข้าประเทศได้อีกครั้ง และผมเชื่อโดยเสมอว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เร็วที่สุด คือรายได้จากการท่องเที่ยว และเม็ดเงินมหาศาล ที่สามารถกลับมาช่วยคนไทยให้ลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง