นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งภายในพื้นที่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา หลังพบว่านาข้าวของเกษตรกร ในอำเภอพิมาย ประสบกับปัญหาฝนทิ้งช่วงนานกำลังจะยืนต้นตายเกือบ 2 แสนไร่ หลังจากปริมาณน้ำตามแหล่งน้ำต่างๆ ในพื้นที่เริ่มแห้งขอดจนหมด หากฝนไม่ตกในเดือนกรกฎาคมนี้ นาข้าวทั้งหมดจะได้รับความเสียหาย โดยทางองค์การบริหารส่วนตำบลกระชอน อำเภอพิมาย นำรถบรรทุกน้ำมาแจกจ่ายช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนผู้ประสบปัญหาภัยแล้ง
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ทางจังหวัดเตรียมจ่ายเงินชดเชยความเสียหายให้กับเกษตรกรภายในสิ้นเดือนนี้ หากฝนไม่ตกจะทำนาข้าวเสียหายทั้งหมด โดยจะจ่ายช่วยเหลือไร่ละ 1,113 บาท โดยจังหวัดนครราชสีมา ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคแล้ว จำนวน 10 อำเภอ 21 ตำบล 40 หมู่บ้าน ซึ่งทางสำนักงานกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดนครราชสีมา เร่งดำเนินการให้บ่อน้ำบาดาลเก่าที่ไม่ได้ใช้งาน ให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง โดยเป่าล้างบ่อบาดาลมาแล้ว จำนวน 86 บ่อ คาดว่าภัยแล้งขยายพื้นที่ออกไปมากขึ้น และในปีนี้ภัยแล้งรุนแรงและยาวนานกว่าทุกปีที่ผ่านมา จึงขอให้ประชาชนช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อให้ผ่านวิกฤตภัยแล้งครั้งนี้ไปได้อย่างไม่เดือดร้อนมาก
ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำพระเพลิง อำเภอปักธงชัย ซึ่งเป็น 1 ใน 4 เขื่อนขนาดใหญ่ของจังหวัด พบว่ามีปริมาณน้ำใช้การเหลืออยู่เพียง 22 ล้านลูกบาศก์เมตร ต่ำสุดในรอบกว่า 50 ปี หรือตั้งแต่มีการเปิดใช้เขื่อนมา แนวโขดหินริมขอบอ่างโผล่ยาวเหยียด ระดับน้ำที่เหลืออยู่ก้นอ่าง ส่วนค่าเฉลี่ยปริมาณฝนตกสะสมในปีนี้ถือว่าฝนตกน้อยเช่นกัน ล่าสุดทางเขื่อนจำเป็นต้องปิดการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อนแล้ว ส่งผลกระทบต่อการทำเกษตรในพื้นที่เขตชลประทาน 75,000 ไร่ ไม่มีน้ำเพาะปลูกข้าวนาปี