ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่พร้อมนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เข้าพบพนักงานอัยการในคดี “ดูหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญ” และ "คดีวิจารณ์พลังดูด คสช." ที่ถูกพลตรีบุรินทร์ ทองประไพ ผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูญทหารบก แจ้งความเอาผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

โดยส่วนของนายธนาธร เข้าพบคดีอาญา 6 เพื่อฟังคำสั่งว่าจะฟ้องในคดี "วิจารณ์พลังดูด คสช." หรือไม่ อยู่ในขั้นตอนรอสำนวนคดีคืนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งนายธนาธร ถูกกล่าวหาร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ จากการร่วมกันจัดรายการ "คืนวันศุกร์ให้ประชาชน" เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2561 ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ในเพจอนาคตใหม่ - The Future We Want และเพจ Thanathorn Juangroongruangkit

ขณะที่นายปิยบุตร เข้าพบกับอัยการ กรณีที่พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท.จะส่งสำนวนคดี "วิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญ" จากกรณีการอ่านคำแถลงการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ที่มีความเห็นต่อคำวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติของศาลรัฐธรรมนูญให้อัยการ หรือ เป็นขั้นตอนส่งตัวผู้ถูกกล่าวหาให้พนักงานอัยการ เพื่อพิจารณาว่าจะสั่งฟ้องคดีหรือไม่

นายกฤษฎางค์ เปิดเผยหลังพบอัยการว่า กรณีของนายธนาธร สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ยังไม่ส่งสำนวนกลับมาให้อัยการและอัยการนัด ฟังคำสั่งอีกครั้งวันที่ 2 ธันวาคมนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง และหากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เห็นพ้อง เรื่องก็จบแต่หากมีความเห็นแย้งให้สั่งฟ้องก็ต้องยื่นเรื่องให้อัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาชี้ขาดว่าจะฟ้องคดีหรือไม่

ส่วนคดีของนายปิยบุตรนั้น ปอท. ไม่สั่งฟ้องตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ฟ้องเฉพาะข้อหาหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 198 โดยอัยการนัดฟังคำสั่งอีกครั้งวันที่ 28 พฤศจิกายน โดยทนายเตรียมขอให้อัยการสอบพยานเพิ่มเติม เพราะที่มีการสอบไป ล้วนแต่เป็นผู้ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามและมุ่งโจมตีนายปิยะบุตรและพรรคอนาคตใหม่เท่านั้น

นายปิยบุตร ระบุว่า หลักฐานที่พลตรีบุรินทร์ ใช้เอาผิดตัวเองนั้น ไม่มีน้ำหนักหรือเบาหวิว เพราะถอดเทปแบบผิดๆถูกๆ และเชื่อว่าเป็นการฟ้องคดีเพื่อปิดปากเท่านั้น และได้ทวงความรับผิดชอบของพลตรีบุรินทร์ ว่าจะรับผิดชอบอย่างไร ในกรณีที่พนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้อง พ.ร บ.คอมหรือพิวเตอร์ฯ หรือมีหน้าที่เพียงแค่ฟ้องคดีเพื่อปิดปากแล้วก็จบไป พร้อมกันนี้ขอให้สังคมตั้งคำถามถึงกระบวนการ ที่เล่นงานและทำลายพรรคอนาคตใหม่ทั้งที่ทำงานการเมืองได้ไม่กี่เดือน เพียงเพราะมีแนวทางที่ชนกับผู้มีอำนาจ รวมถึงการวิเคราะห์ว่าพรรคอนาคตใหม่จะถูกยุบหรือแกนนำจะถูกจำคุกบ้างนั้น พิจารณาจากข้อกฎหมายหรือเป็นการตัดสินทางการเมือง 

นายปิยบุตร กล่าวด้วยว่า กรณีถือหุ้นสื่อฯของนายธนาธร นั้น เจตนารมณ์ของกฎหมาย มุ่งป้องกันไม่ให้นักการเมืองแทรกแซงสื่อฯ โดยต้องดูจากจำนวนการถือหุ้นและประกอบกิจการ และได้ตั้งข้อสังเกตให้สังคมเทียบเคียงกับกรณีที่นักการเมืองที่คู่สมรสเป็นเจ้าของสื่อฯ แต่ไม่โดนคดีอะไร ขณะที่ตัวเองนั้น ก็สอนหนังสือและวิจารณ์ศาลมาตลอดชีวิต ก็ไม่เคยโดนฟ้องคดี แต่เมื่อมาทำงานการเมืองกลับถูกดำเนินคดีมากมาย

เชื่ออดีตผู้สมัครส.ส.ลาออก ไม่กระทบพรรคอนาคตใหม่

ส่วนกรณีสอบสวน ส.ส. ที่ แหกมติพรรคตามกระบวนการนั้น ยังไม่ได้ ประสานผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมกันนี้ยืนยันว่า ไม่มีใครกล่าวหา นางสาวศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคอนาคตใหม่ ว่าเป็นงูเห่า และส่วนตัวเชื่อว่า นางสาวศรีนวล ไม่ได้รับเงินหรือขายตัวทางการเมือง ซึ่งนางสาวศรีนวล ยังเป็นบุคลากรสำคัญของพรรค 

ขณะที่นายธนาธร ให้สัมภาษณ์สื่อเกี่ยวกับ กรณีที่มีสมาชิกและอดีตผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคว่าไม่กระทบกับการทำงานของพรรคอนาคตใหม่ โดยจะก้าวต่อไปเพื่อสร้างพรรคการเมืองที่ยึดโยงกับประชาชนและให้บทบาทสมาชิกมากยิ่งขึ้น และยอมรับว่ามีเวลาเตรียมตัวและคัดสรรผู้สมัครน้อย ซึ่งในระยะเวลาจำกัดแต่พรรคเติบโตได้ขนาดนี้จะทำให้สมบูรณ์แบบนั้นเป็นเรื่องยาก อย่างไรก็ตามมีสมาชิก อยู่ 60,000 คนและคนจำนวนมากที่ต้องการสมัครสมาชิกและอยากทำงานการเมืองร่วมพรรค 

ส่วนปัญหาภายในของแต่ละพรรค มีอยู่ทุกพรรคการเมือง รวมถึงในพรรคพลังประชารัฐหรือพรรคประชาธิปัตย์ แต่เรื่องราวจะไม่ถูกขยายเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือเหมือนกับพรรคอนาคตใหม่เผชิญอยู่ รวมถึงการถูกกล่าวหาและดำเนินคดีต่างๆเพื่อทำลายภาพลักษณ์และทำให้เสียเวลาด้วย พร้อมขอให้สังคมร่วมพิจารณาว่า การที่พรรคอนาคตใหม่ ทำงานการเมืองต่อสู้ในรัฐสภาเพื่อสิทธิเสรีภาพ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมและประชาธิปไตยนั้นเป็นความผิดบาปมากหรืออย่างไร จึงขอให้สังคมมองความเป็นธรรมทางการเมืองในเรื่องดังกล่าวด้วย