ใจความแถลงการณ์สรุปได้ว่า เป็นเวลากว่า 8 ปีแล้วที่สังคมไทยต้องตกอยู่ภายใต้ช่วงเวลาอันมืดมนและขมขื่นที่สุด ภายใต้การปกครองของทรราชผู้ปล้นชิงอำนาจการปกครองไปจากประชาชน ไร้ซึ่งความชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตย นาม "ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ผู้ได้ร่วมมือกับพลพรรคสร้างวิกฤตทางการเมืองเพื่อช่วงชิงอำนาจการปกครอง พร้อมตั้งตนและพวกขึ้นเป็นรัฐบาล ใช้อำนาจอำนวยผลประโยชน์และความมั่นคงแก่ชนชั้นนำ และกดขี่ข่มเหงประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย
อย่างไรก็ดี รัฐธรรมนูญ ปี 2560 บัญญัติเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในมาตรา 158 วรรค 4 ไว้ว่า “นายกรัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปีมิได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดํารงตําแหน่งติดต่อกันหรือไม่ แต่มิให้นับรวมระยะเวลาในระหว่างที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปหลังพ้นจากตําแหน่ง" รวมทั้ง มาตรา 170 วรรค 2 บัญญัติไว้ว่า “ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง เมื่อครบกำหนดตามมาตรา 158 วรรค 4 ด้วย”
ดังนั้น นับตั้งแต่วันที่มีการโปรดเกล้าฯ ครั้งแรก ประยุทธ์ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2557 ซึ่งรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มาตรา 264 ได้บัญญัติไว้ด้วยว่า “ให้คณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ เป็นคณะรัฐมนตรีตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้…” จึงต้องถือว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีของประยุทธ์ต้องสิ้นสุดลงในวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ซึ่งเป็นวันครบกำหนด 8 ปี ในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี การจะตีความตัวบทกฎหมายย่อมไม่สามารถจะพลิกแพลงตลบตะแลงเปลี่ยนไปเป็นอื่นได้
เราราษฎร ขอประกาศอย่างหนักแน่นว่า ไม่ว่าประยุทธ์ จะลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ หรือศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยออกมาประการใด แต่นับตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2565 ประชาชนทั้งหลายจะถือว่า ไม่มีนายกรัฐมนตรี ชื่อ "ประยุทธ์ จันทร์โอชา" อีกต่อไป เป็นเพียงนายกฯ เถื่อน เป็นนายกนอกรัฐธรรมนูญ และคณะรัฐมนตรีที่ขึ้นต่อจากนายกฯ เถื่อนผู้นี้ ย่อมมีสถานะเป็นคณะรัฐมนตรีนอกกฎหมายเช่นกัน
เราราษฎรจึงขอยืนยันข้อเรียกร้องเฉพาะกาลก่อนการเลือกตั้ง ดังต่อไปนี้
ด้านสองนักกิจกรรมกลุ่มทะลุวัง ใบปอ-ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ และบุ้ง-เนติพร เสน่ห์สังคม ผู้ต้องหาคดี ม.112 และเพิ่งได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว หลังอดอาหารเป็นเวลากว่า 2 เดือนในเรือนจำ ได้ร่วมโต๊ะแถลงเช่นกัน
ใบปอเรียกร้องให้คืนสิทธิการประกันตัวแก่นักโทษทางการเมืองที่ยังอยู่ในเรือนจำกว่า 30 ราย โดยมองว่าภายใต้รัฐบาลของประยุทธ์ มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ตนเห็นว่าเพื่อนๆ ในเรือนจำหลายคนไม่มีความผิด แต่โครงสร้างทางสังคมที่มีบีบให้พวกเขาถูกนำตัวเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ขอตั้งคำถามว่ามันยุติธรรมแล้วหรือ ที่รัฐบาลยังอยู่ แต่สิทธิเสรีภาพเราลดต่ำลง
ขณะที่บุ้งกล่าวถึงสาเหตุที่มาร่วมอ่านแถลงการณ์ครั้งนี้ว่า ตนเล็งเห็นการจัดสรรงบประมาณแผ่นดินที่ไม่ได้ยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง แต่จัดสรรงบประมาณเพื่อให้ประยุทธ์สืบทอดในอำนาจ สนับสนุนชนชั้นนำที่สนับสนุนเผด็จการ
“8 ปีที่ผ่านมาขูดรีดเลือดเนื้อประชาชนไปพอหรือยัง ถึงเวลาที่เราต้องทวงทุกอย่างคืนจากนายกฯ อัปรีย์และพวกพ้องปรสิต” บุ้งกล่าว
ส่วนรายชื่อ 38 องค์กรแนบท้าย มีดังนี้
1. แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม
2. กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG)
3. We Volunteer
4. คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.)
5. คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.)
6. ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-Move)
7. เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน
8. สหภาพคนทำงาน
9.People Go Network
10. เครือข่ายคนรุ่นใหม่เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม
11. สลัมสี่ภาค
12. เครือข่ายรัฐสวัสดิการเพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม We Fair
13. เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่
14. กรองข่าวแกง
15. เฟมินิสต์ปลดแอก
16.FemFoo
17. นักเรียนเลว
18. ขอนแก่นพอกันที
19. ราษฎรโขงชีมูน
20. ดาวดิน สามัญชน
21. ขบวนการอีสานใหม่
22. พรรคโดมปฏิวัติ
23.Nu-movement
24. ชุมชนนักกิจกรรมภาคเหนือ(CAN)
25.Cafe Democracy
26. พรรคปฏิวัติมอดินแดง
27. องค์การบริหารสโมสรนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อบจ.)
28. พิราบขาวเพื่อมวลชน ลำปาง
29.KNACK กลุ่มสนับสนุนสังคมประชาธิปไตยที่เป็นธรรมและเท่าเทียม
30.Supporter Thailand (SPT)
31. ทะลุวัง
32.Nurses Connect
33. แดนดินถิ่นขบถ
34. กลุ่มนักกฎหมายอาสาเพื่อสิทธิมนุษยชนภาคใต้ (Law Long Beach)
35. โมกหลวงริมน้ำ
36.Secure Ranger
37. สหพันธ์นักเรียนเพชรบูรณ์
38. กอผือ รื้อ เผด็จการ