นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ให้คะแนน 2 คะแนนจากคะแนนเต็ม 100 ต่อมาตรการ "ชิม ช้อป ใช้" และเชื่อว่าไม่กระตุ้นเศรษฐกิจ ว่า ตนรู้สึกผิดหวังซ้ำๆ กับพฤติกรรมของโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง มีโทสาคติ พูดไปเรื่อย ไม่ทราบว่าใช้ส่วนไหนคิด วันๆ ทำแต่เรื่องให้ประชาชนเคลือบแคลงสงสัย ไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน สงสัยว่าถ้าเป็นเรื่องจ้างล็อบบี้ยิสต์คงจะได้คะแนนเต็ม 100
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ประชาชนได้ประโยชน์ออกมาใช้จ่ายกันอย่างคึกคักจนมีการเรียกร้องให้เปิดเฟส 2 ด้วยซ้ำ ในช่วง 10 วันแรกมีผู้ลงทะเบียนรับสิทธิ์มาตรการ "ชิม ช้อป ใช้" เต็มตามเป้าหมาย 1 ล้านรายทุกวัน หากประชาชนใช้สิทธิครบทั้ง 2 กระเป๋า จะเกิดผลต่อเศรษฐกิจดังนี้ กระเป๋า 1 วงเงิน 1,000 บาทแรก เพื่อดึงคนออกจากบ้าน ในส่วนนี้ก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 10,000 ล้านบาท และกระเป๋า 2 เมื่อมีการเดินทางก็จะเกิดการใช้จ่าย
หากประชาชนใช้สิทธิตามที่คาดการณ์ จะก่อให้เกิดวงเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจอีกกว่า 70,000 ล้านบาท จากวงเงินงบประมาณ 19,000 ล้านบาท เป้าหมายของโครงการนี้คือ กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ และเน้นไปที่เศรษฐกิจฐานราก เมื่อพ่อค้าแม่ค้าได้รับเงินก็จะนำไปซื้อวัตถุดิบส่วนหนึ่งด้วย
นายธนกร กล่าวอีกว่า ขณะที่อีกส่วนหนึ่งเงินหมุนไปเป็นค่าแรงคนงาน ดังนั้น จึงเกิดการกระตุ้นการบริโภค ก่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนและส่งผลด้านจิตวิทยา เกิดความคึกคักในการจับจ่ายใช้สอย
อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายจะเป็นการใช้จ่ายที่ร้าน "ช้อป" ซึ่งเป็นร้านในกลุ่ม OTOP ร้านวิสาหกิจชุมชน รวมทั้งร้านธงฟ้าประชารัฐเกินครึ่ง สะท้อนการกระจายเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจฐานราก มีการใช้จ่ายทั้ง 77 จังหวัด แสดงให้เห็นว่าการใช้จ่ายดังกล่าวกระจายไปยังทุกจังหวัด โดยเฉพาะร้านค้าท้องถิ่น ไม่มีการเอื้อนายทุน มีการใช้จ่ายในร้านค้าขนาดใหญ่ที่มีหลายสาขาเพียงร้อยละ 22 ของทั้งหมด โครงการ "ชิม ช้อป ใช้" สนับสนุนยุทธศาสตร์ National e-Payment ใน scale ที่ใหญ่มาก เป็นการเพิ่มจำนวนผู้ใช้จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในครั้งเดียวกว่า 10 ล้านรายเป็นครั้งแรกในประเทศไทยอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง