ไม่พบผลการค้นหา
ครม. พร้อมเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินในอีอีซี โดยมีมติเห็นชอบปรับปรุงเกณฑ์การร่วมทุนของเอกชน

คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ครั้งที่ 5/2562 เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และกระบวนการ ในการร่วมลงทุนกับเอกชนหรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน ตามที่ (สกพอ.) เสนอ

มติครั้งนี้เป็นการเห็นด้วยกับการการจัดตั้งหน่วยงานเพื่อติดตาม กำกับ และบริหารจัดการสัญญาร่วมลงทุนของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินภายในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งอยู่ภายใต้กำกับของ สกพอ. 

การปรับปรุงประกาศคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และกระบวนการ ในการร่วมลงทุนกับเอกชน หรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน พ.ศ. 2560 ในหมวด 3 การกำกับดูแลและติดตามผล มีใจความสำคัญ 5 ประการได้แก่

  • เพิ่มเติมหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการกำกับดูแล โดยให้มีหน้าที่และอำนาจพิจารณาดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการตามที่เห็นสมควร หรือเป็นไปตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบาย 
  • ปรับปรุงข้อความในวรรคท้ายของข้อ 20 จากเดิม “หน่วยงานเจ้าของโครงการอาจว่าจ้างที่ปรึกษาไทยและ/หรือที่ปรึกษาต่างประเทศซึ่งมีคุณสมบัติ ตามที่สำนักงานประกาศกำหนด เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการกำกับดูแลได้” เป็น “สำนักงานและ/หรือหน่วยงานเจ้าของโครงการอาจว่าจ้างที่ปรึกษาไทยและ/หรือที่ปรึกษาต่างประเทศซึ่งมีคุณสมบัติตามที่สำนักงานประกาศกำหนด เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการกำกับดูแลได้”  
  • กำหนดให้เมื่อได้มีการลงนามในสัญญาร่วมลงทุนแล้ว ให้คณะกรรมการนโยบายแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารสัญญา ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนสำนักงานเป็นประธานกรรมการ ผู้แทนหน่วยงานเจ้าของโครงการ ผู้แทนกระทรวงเจ้าสังกัด ผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งแต่งตั้งจากผู้มีความรู้หรือความเชี่ยวชาญอันจะเป็นประโยชน์แก่การดำเนินการของคณะกรรมการบริหารสัญญา เป็นกรรมการ และผู้แทนสำนักงาน เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยให้มีหน้าที่และอำนาจควบคุมและกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานเจ้าของโครงการตามสัญญาร่วมลงทุน รวมถึงกำหนดแผนงานเพื่อกำกับดูแลและตรวจสอบให้หน่วยงานเจ้าของโครงการและเอกชนคู่สัญญาปฏิบัติหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในสัญญาร่วมลงทุนได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน รายงานผลการดำเนินงานความคืบหน้า ปัญหา และแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดหรืออาจเกิดขึ้นในสัญญาร่วมลงทุนต่อคณะกรรมการกำกับดูแลและสำนักงาน อย่างน้อยสามเดือนต่อหนึ่งครั้ง และพิจารณาดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารสัญญาร่วมลงทุนตามที่เห็นสมควร หรือเป็นไปตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบายคำสั่งของคณะกรรมการกำกับดูแลและสำนักงาน
  • กำหนดให้สำนักงานจัดหาบุคลากรและว่าจ้างที่ปรึกษาไทยและ/หรือที่ปรึกษาต่างประเทศ ซึ่งมีคุณสมบัติตามที่สำนักงานประกาศกำหนด เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารสัญญาและหน่วยงานเจ้าของโครงการ ในการควบคุมและกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของเอกชนคู่สัญญาตามที่กำหนดไว้ในสัญญาร่วมลงทุน และในกรณีที่คณะกรรมการบริหารสัญญาเห็นสมควร อาจเรียกให้หน่วยงานเจ้าของโครงการจัดส่งบุคลากรสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารสัญญาก็ได้
  • กำหนดให้หน่วยงานเจ้าของโครงการและสำนักงานดำเนินการเกี่ยวกับเงินทุนเพื่อใช้ในกิจกรรมของคณะกรรมการบริหารสัญญา รวมถึงการจัดหาบุคลากรและว่าจ้างที่ปรึกษา โดยให้หารือกับสำนักงบประมาณเพื่อขอรับจัดสรรงบประมาณ และ/หรือเจรจากับเอกชนคู่สัญญา เพื่อร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการดังกล่าวในสัดส่วนที่เหมาะสมและเป็นธรรม