วันที่ 27 มิ.ย. มีรายงานว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 (ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 ) สั่งยกเลิกคำสั่งการจัดตั้งศูนย์ธำรงวินัยฯ ที่ตั้งขึ้นในยุคที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เป็น อดีต ผบ.ทบ. ที่มีทั้งในกองทัพบก
ส่วนกลางกองทัพภาค 1 มีศูนย์ธำรงวินัย ที่กองพลทหารม้าที่ 2รักษาพระองค์ (พล.ม.2รอ.) และ งหน่วย มณฑลทหารบก (มทบ.) ในแต่ละกองทัพภาคเพื่อควบคุมระเบียบ วินัย และการวางตัวของกำลังพล ทั้งความประพฤติ การแต่งกาย เครื่องแบบ ต้อง ให้ถูกระเบียบเป้ะ และสง่างาม
ทั้งนี้การนำเรื่อง "ธำรงวินัย" มาบังคับใช้ เพื่อให้ทหารทุกระดับชั้น ตั้งแต่ทหารนายสิบ ถึงระดับนายพลต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น เพื่อรักษาระเบียบวินัยทางทหาร วางตัวให้เหมาะสมไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกเครื่องแบบโดยเฉพาะเมื่ออยู่ท่ามกลางประชาชน การออกสื่อ การลงโซเชียลฯ
ซึ่งการ "ธำรงวินัย" ทำได้ทั้งการฝึกทางทหาร การฝึกความเข้มแข็งของร่างกาย การเดินเวร
โดยเมื่อ ถูกลงโทษและถูกธำรงวินัยจะต้องสวมหมวกสีแดง เป็นสัญลักษณ์ว่า อยู่ระหว่างการถูกธำรงวินัย
โดย กองทัพบก มีคำสั่งยกเลิก ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.2566 เป็นต้นไป โดยให้ทุกหน่วยดำเนินการต่อกำลังพลที่กระทำผิดวินัยตาม พ.ร.บ.วินัยทหาร พ.ศ.2476 แทน
โดยมีกฎการลงทัณฑ์ 5 สถาน ตามฐานความผิด "พระราชบัญญติวินัยทหาร"เริ่มจาก เบาไปหาหนัก
1.ภาคทัณฑ์ หรือ ทำทัณฑ์บน
2. ทัณฑกรรม ด้วยการ ให้ทำงานสุขา การโยธา อยู่เวรยาม
3. กักตัวให้อยู่ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง
4. กักขัง ถูกขังในที่ควบคุม
5. จำขัง เข้าเรือนจำทหาร ซึ่งถือว่าเป็นโทษรุนแรงที่สุดและ วินัยทหาร 9 ข้อ