สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ศาลจังหวัดพัทยาได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3494-3495/2562 ความอาญาและคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ในคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการจังหวัดพัทยา เป็นโจทก์ บริษัทโรแยลคลีฟ บีช โฮเต็ล จำกัด เป็นโจทก์ร่วม โดยยื่นฟ้องนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง อดีตแกนนำ นปช. จำเลยที่ 1 นายนพพรม นามเชียงใต้ จำเลยที่ 2 พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ จำเลยที่ 3 นายสมญศฆ์ พรมภา จำเลยที่ 4 ในความคิดต่อความมั่นคงของรัฐ ก่อการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ทำให้เสียทรัพย์บุกรุกความผิดต่อ พ.ร.บ.จราจรทางบก ซึ่งก่อนหน้านี้ ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาคดีนี้โดยยืนตามศาลชั้นต้น ตัดสินจำคุกนายอริสมันต์ กับพวก เป็นเวลา 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา และเมื่อวันที่ 5 มี.ค.2558 ศาลจังหวัดพัทยาซึ่งเป็นศาลชั้นต้นก็มีคำพิพากษาให้จำคุก 4 ปีโดยไม่รอลงอาญาเช่นกัน
กระทั่งคดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาลฎีกา ศาลพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ให้จำคุกนายอริสมันต์กับพวกรวม 12 คน เป็นเวลา 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา ยกเว้น นายสมญศฆ์ พรมภา เนื่องจากฎีกาของนายสมญศฆ์ฟังขึ้น ศาลพิพากษาให้ยกฟ้อง
แต่ปรากฎว่าในวันนั้น มีเพียงนายศักดา นพสิทธิ์ จำเลยที่ 10 ปัจจุบันรับโทษจำคุก 4 ปีอยู่ในเรือนจำ เข้าฟังคำพิพากษา ส่วนจำเลยที่เหลืออ้างว่าป่วย และไม่ได้รับหมายเรียก ศาลจึงออกหมายเรียกอีกครั้ง ให้ฟังคำพิพากษาในวันที่ 31 ต.ค.นี้
ทั้งนี้ จำเลยที่ต้องเข้าฟังคำพิพากษาในวันพรุ่งนี้ (31 ต.ค.) คือ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นายนพพร นามเชียงใต้ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ นายนิสิต สินธุไพร นายสำเริง ประจำเรือ นายสิงห์ทอง บัวชุม นายธนกฤต หรือวันชนะ ชะเอมน้อย หรือเกิดดี นายวรชัย เหมะ นายพายัพ ปั้นเกตุ นพ.วัลลภ ยังตรง และ นายพิเชฐ สุขจินดาทอง
สำหรับคดีนี้ เป็นคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการจังหวัดพัทยา และ บริษัท โรแยลคลีฟ บีช โฮเต็ล จำกัด เป็นโจทก์ ฟ้องแกนนำ นปช. ในความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ ก่อการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ทำให้เสียทรัพย์บุกรุก ความผิดต่อ พ.ร.บ.จราจรทางบก ซึ่งเป็นความผิดที่เกิดจากการบุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ครั้งที่ 14 ระหว่างวันที่ 9-12 เม.ย. 2552 จัดขึ้นที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
รายงานข่าวจากอดีตแกนนำ นปช.แจ้งว่า ในวันที่ 31 ต.ค. นั้น นายอริสมันต์ นายนิสิต นพ.วัลลภ นายวันชนะจะไม่เดินทางมาศาลเพื่อฟังคำพิพาษา ขณะที่นายวรชัย นายสำเริง พ.ต.ท.ไวพจน์ จะมาฟังคำพิพากษาและพร้อมที่จะน้อมรับคำพิพากษาที่ตัดสินให้จำคุก ส่วนจำเลยทีี่ถูกพิพากษาให้จำคุกและถูกขังไปก่อนหน้านี้มี 4 คน คือ นายศักดา นายพายัพ นายสิงห์ทองและนายพิเชฐ