เมื่อเวลา 14.05 น. วันที่ 4 ต.ค. 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม และคณะเดินทางถึงกองบิน 21 ต.ไร่น้อย อ.เมือง จ.อุบลราชธานี พร้อมรับฟังบรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำ และสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี โดยมี ชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี รายงานสถานการณ์ในพื้นที่
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวก่อนประชุมว่า วันนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากันทั้งหมด มาตรวจราชการ มาให้กำลังใจพบปะประชาชนและดูความเดือดร้อน เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาของรัฐบาล ทุกอย่างมีกรอบ มีแผนการ มีรูปแบบการทำงาน วันนี้ก็มาติดตามก็ขอให้กำลังใจทุกคนรวมถึงประชาชนด้วย อย่าพึ่งท้อแท้ ต้องมีกำลังใจที่จะดำรงชีวิตไปได้ ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเหล่านี้ เมื่อพวกเราเดือดร้อนรัฐบาลก็เดือดร้อน รัฐบาลก็เห็นใจในความเสียหายที่เกิดขึ้น
ลั่นทำให้หมดทุกจังหวัดไม่มีแบ่ง เจอตะโกนถาม "มาให้คนอื่นลำบากทำไม" จนท.รีบห้ามชู 3 นิ้ว
จากน้ัน พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะลงพื้นที่ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย ทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาถึงกองบิน 21 ผู้ว่าฯอุบลราชธานี ได้กล่าวรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ ก่อนที่จะเดินทางตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัย และเยี่ยมเยียนบ้านเรือนประชาชน ที่ชุมชนวารินธราราม โดยมี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ วุฒิพงษ์ นามบุตร ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ รอต้อนรับ
จากนั้นนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะขึ้นรถ ปภ.ยกสูง เดินทางไป ตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัยและเยี่ยมเยียนบ้านเรือนประชาชน ณ ชุมชนวัดวารินทราราม ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ โดยระหว่างทางจาก อ.เมือง มา อ.วารินชำราบ นายกฯ ได้โบกมือให้กำลังใจชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม 2 ข้างทาง แต่ในขณะเดียวกัน มีชาวบ้าน ชู 3 นิ้ว ตะโกน ว่า มาทำให้คนอื่นลำบากทำไม โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ห้ามเอามือที่ชู 3 นิ้วลง
อ้อนคนอุบลฯ ไทยโชคดีกว่าเพื่อนบ้านอาเซียน บอกต้องฟื้นตัวแบบพอเพียง
จากนั้นเมื่อนายกฯ มาถึงยังศูนย์พักพิง ได้ทักทายกับประชาชนที่มารอต้อนรับกว่า 300 คน โดยระบุว่า "เหนื่อยเหมือนกันนะ แต่รู้ว่าพวกเราเหนื่อยกว่า มาไกลกว่านายกฯผ่านน้ำผ่านเส้น ทางอันยากลำบาก วันนี้มาเยี่ยมพวกเราเอาหัวใจมาฝาก เอาคณะทำงานมาด้วย"
จากนั้น นายกฯได้แนะนำรัฐมนตรีที่เดินทางร่วม มาวันนี้คือไม่อยากให้เป็นภาระ อยากมาดูด้วยตาของตัวเองว่านายกรัฐมนตรีกับคณะทำงานดูทั้งภาพ ทั้งเสียง ทั้งรายงานของวิดีโอ ซึ่ง จ.อุบลราชธานี น้ำท่วมหนักถึง 6 ครั้งตั้งแต่ตนเป็นนายกรัฐมนตรีมามากกว่าจังหวัดอื่น
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า วันนี้ยังจำภาพเดิมอยู่ในปี 2562 และอีกครั้งหนึ่งที่น้ำท่วมเหมือนกัน แต่ครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อน เนื่องจากมีพายุเข้า และมีฝนตกหนักเกินปริมาณที่จะรองรับได้ จึงทำให้เกิดปัญหา แต่ก็จะพยายามลดให้ได้มากที่สุด ทุกประเทศในโลกก็เจอปัญหานี้ทั้งหมดแม้กระทั่งอเมริกาและยุโรป บางรัฐกวาดเกลี้ยงทั้งรัฐ น้ำท่วมพายุ ของเราถือว่าเราก็รอด มาจากพายุโนรู ถึงประเทศไทยเหลือ 50กิโลเมตรต่อชั่วโมง ต้องแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ได้มากที่สุด ต้องไปคุยให้ได้หลังจากน้ำลดดูแลเยียวยา รัฐบาลจะดูแลตรงนี้ให้
พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่เคยนิ่งนอนใจ ติดตามทุกวันปัญหาของพวกเราก็คือน้ำท่วมหลายพื้นที่ ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ วันนี้ทางเหนือก็โดน เหนือตอนบน ตอนกลางตอนล่าง ภาคกลางกรุงเทพมหานคร เดี๋ยวก็จะเป็นต่อภาคใต้ตอนบน ใต้ตอนล่าง เพราะน้ำไหลจากบนลงล่างว่าจะพร่องน้ำไปได้อย่างไร แต่เมื่อฝนมา ข้างบนก็ลงไปอีกนี่คือปัญหาของเรา เราเป็นประเทศที่อยู่ในท่ามกลาง มรสุม แต่เราโชคดีกว่าหลายประเทศในอาเซียน เพราะฉะนั้นจะต้องทำให้ดีที่สุดจิตใจก็ตามการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาเราทำได้เป็นระยะๆ เพราะทุกอย่างเป็นโครงการเข้ามาแต่งบประมาณไม่ได้มากมายก็ทยอยทำนี่คือปัญหาของเรา และจะต้องทำอย่างไรให้ประเทศของเราจะต้องเข้มแข็งขึ้น มีรายได้มากขึ้น GDP สูงขึ้น จะได้นำเงินพวกนี้มาดูแลตรงนี้สร้างเขื่อนสร้างประตูน้ำทางระบายน้ำ
"เราทยอยทำงบประมาณมีอยู่แค่นี้ เราไม่ได้แก้ตัว แต่นายกอยู่ตรงนี้ด้วย เข้าใจนะจ๊ะ ทุกคนต้องอยู่รอดมีอาหารกินมีน้ำดื่ม มีสุขภาพดูแลให้ดีที่สุดต่อไปอยู่รอดแล้วก็ต้องพอเพียง และฟื้นตัวขึ้นมาอยู่อย่างพอเพียง" โดยรัฐบาลจะต้องหาแนวทางทำอย่างไรให้เข้มแข็ง เกิดเหตุการณ์แต่ละครั้งจะทำอย่างไรให้ฟื้นตัวได้เร็วนี่คือแผนงานที่รัฐบาลต้องทำใช้เวลาพอสมควรแต่ก็จะเร่งให้เต็มที่ เพราะว่ารัฐบาลก็เหลือเวลาจะต้องทำให้เร็วที่สุด
นายกฯ กล่าวอีกว่า ต้องทำโครงการตามแผนที่วางไว้และมีงบประมาณที่เพียงพอเพราะงบประมาณแต่ละปีเก็บปี 2565 ใช้ 2566 เก็บ 2566 ใช้ ปี 2567 เป็นอย่างนี้เข้าใจหรือไม่
โดยนายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า ตนไม่พูดเรื่องหนักหัวให้กับพวกเรา วันนี้มาเพื่อ มาเยี่ยมมาให้กำลังใจ เห็นแล้วนายกฯก็ไม่สบายใจ ไม่มีใครสบายใจได้หรอกตอนนี้ ไม่ว่าที่นี่จะเป็นพื้นที่ใครก็ตาม รัฐบาลทำให้หมดทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตามรัฐบาลทำให้หมดถามผู้ว่าได้ทุกจังหวัด ไม่มีแบ่งเขาแบ่งเรา ขอยืนยันตรงนี้เพราะเป็นรัฐบาลที่ต้องดูแลคนทั้งประเทศ ก่อนที่จะถามประชาชนว่าบ้านไกลหรือไม่ ก่อนที่จะระบุว่า ไม่มีอะไรหรอกเนาะ ส่งใจถึงกันอยู่แล้วทุกวัน
หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินเยี่ยมชมศูนย์พักคอย พร้อมกับทักทายประชาชนอย่างเต้นท์ที่พักชั่วคราว โดยนายกได้กล่าวทักทายกับประชาชนที่มาอยู่ยังศูนย์พักคอย และถ่ายรูปร่วมกันอย่างเป็นกันเอง พร้อมกับยังตัดผมให้กับอดีตนายทหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในบริการสำหรับประชาชนยังศูนย์พักคอยอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในหอประชุมระหว่างที่นั่งของชาวบ้านมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยปะปนอยู่ในแถวต่างๆ โดยยังมีการกำชับเจ้าหน้าที่คัดกรองด้านหน้า ให้ตรวจค้นอาวุธ แผ่นป้ายข้อความต่างๆ ไม่ให้ เล็ดลอดเข้ามายังภายในหอประชุม นอกจากนี้ชาวบ้านจำนวน 300 คน เป็นประชาชนกลุ่มที่มีการลงทะเบียนมาแล้วล่วงหน้าจากกรมการปกครอง รวมไปถึงมีการตั้งด่านตรวจ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณทางเข้ามายังจุดชุมชนแห่งนี้อีกด้วย
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าในการลงพื้นที่น้ำท่วมที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นครั้งแรกของ พล.อ.ประยุทธ์ หลังกลับมาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี มีการปรับบุคลิกให้เข้าถึงง่าย ใกล้ชิดประชาชนมากขึ้นโดยมีการเดินทักทายถ่ายรูปสวมกอดกับประชาชน พร้อมบอกมาเพราะห่วงใย เพราะรัก ไม่ได้เลือกเขาเลือกเรา และเป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรี กำชับกับผู้ว่าราชการจังหวัดไว้ก่อนหน้านี้ ไม่ให้มีป้ายต้อนรับหรือกองเชียร์
อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรี มีกำหนดการจะลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำ จ.เพชรบูรณ์ ในวันพฤหัสบดีที่ 6 ต.ค.นี้ รวมไปถึงจะมีการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ในช่วงสัปดาห์หน้า
แจงงบเยียวยาลดลงหลายหมื่นล้าน หยอดคนอุบลฯ ถ้ารักกันเดี๋ยวน้ำท่วามก็ผ่านไป
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชุมชนวารินธราราม ว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะเดินทางเยี่ยมประชาชน มีโอกาสรับฟังความคิดเห็น การดำเนินการแผนงานโครงการต่างๆทั้งของผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ของศูนย์บูรณาการบรรเทาสาธารณภัยกระทรวงมหาดไทย ที่ประชุมเมื่อวันนี้ซึ่งก็เป็นไปตามแผน แต่ปัญหาสำคัญคือปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้น ฝนยังไม่หยุดตก ก็ต้องเตรียมแผนเผชิญเหตุไว้ แต่หากหยุดตกไปก็จะสามารถพร่องน้ำได้มากขึ้น ซึ่งเราก็ต้องคาดหวังให้สถานการณ์นั้นดีขึ้นนั่นแหละ แล้วเราทำเต็มที่หรือยัง หากทำเต็มที่แล้วก็คือเต็มที่แล้ว ซึ่งก็ต้องสร้างความเข้าใจประชาชนว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไป
โดยนายกฯ ยังระบุว่า รัฐบาลไม่อาจประกาศได้ว่าน้ำจะไม่ท่วม เพราะกรมอุตุนิยมวิทยาเขาชี้แจงมาอย่างนั้น คือสภาพลมฟ้าอากาศของโลก ของประเทศของภูมิภาค ถ้าไม่ฟังตรงนี้จะไปฟังใคร ถูกหรือไม่เราต้องหามาตรการรองรับตรงนี้ ทั้งจากสถานการณ์ปัจจุบันและการคาดการณ์ล่วงหน้า หากไม่มีน้ำก็จะระบายลงไปสู่ที่ต่ำ และตนรู้สึกยินดีที่ประชาชนทั้งสองจังหวัดนั้นเข้าใจ เพราะเขาเจอกันมานานแล้วแต่เราก็ต้องสร้างความเข้มแข็งต่อไป
สิ่งสำคัญคือในช่วงที่ผ่านมา ในแต่ละปีที่ไม่มีพายุเข้ามา การใช้จ่ายงบประมาณด้านเยียวยาลดลงไปเป็นจำนวนมากกว่าเดิมหลายหมื่นล้าน จนกระทั่งเหลือหมื่นล้านเศษๆมาหลายปี และปีนี้หนักหนาสาหัส นี่คือข้อเท็จจริงไม่ใช่ข้อแก้ตัว ไม่ใช่การโยนความผิดให้ผู้อื่นเข้าใจหรือไม่ ก็ทำกันต่อไป
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทางขึ้นรถยกสูงเพื่อเดินทางกลับในทันทีโดยระหว่างที่นายกฯ อยู่บนรถ ได้หันมาทักทายกับประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่รออยู่ด้านล่าง โดยระบุว่า “ทำเพื่อคนอื่น ถ้าเหนื่อยผมก็ทนได้ น้ำเดี๋ยวมันมามันก็ไป ลำบากหน่อย ก็พยายามทำอย่างเต็มที่ ถ้ารักกันแบบนี้เดี๋ยวก็ผ่านพ้น“