วันที่ 8 เม.ย. 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ระบุกรณีพรรคฝ่ายค้านเลื่อนการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจไปปลายเดือน ส.ค. จากเดิมที่กำหนดไว้กลางเดือน พ.ค.ว่า “เหรอ! ผมยังไม่ทราบ”
เมื่อถามว่าการเลื่อนเวลาออกไปแบบนี้จะทำให้รัฐบาลสามารถหายใจได้ทั่วท้องและมีเวลาเตรียมตัวมากขึ้นใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ผมหายใจได้ทุกวันและเตรียมตัวทุกวันอยู่แล้ว ผมทำงานมาทุกวัน ผมก็ชี้แจงข้อเท็จจริงไปว่าผมได้ทำอะไรแค่นั้น คือจะเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ผมไม่ได้อะไรทั้งสิ้น”
เมื่อถามว่ามีการมองว่าไทม์ไลน์ดังกล่าวเหมือนมีการพูดคุยระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้าน เพราะเป็นการอภิปรายหลังกฎหมายลูกเสร็จและผ่าน ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ วาระแรก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “เหรอ ไม่รู้สิ” ตนไม่ได้ไปคุย ฉะนั้นเรื่องที่ว่ากฎหมายอะไรต่างๆ จะออก หรือแม้กระทั่งการยุบสภา ตนก็เห็นมีคนพูดแทนหมด ตนยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ ก็แล้วแต่
เมื่อถามว่าระหว่างที่รัฐบาลบริหารประเทศแก้เศรษฐกิจ ได้มีการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองหลังสงกรานต์จะเป็นอย่างไรด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทางการเมืองก็เป็นการเมืองแบบนี้แหละ ก็เดี๋ยวมันก็คงดีขึ้น เข้าใจไหม ทุกอย่างอยู่กับประชาชนทั้งหมด การเมืองก็คือการเมืองที่มาจากประชาชน ฉะนั้นถ้าประชาชนเข้าใจก็ต้องคุยกัน เพราะประชาชนเป็นคนเลือกผู้แทนเข้ามา และจากผู้แทนเข้ามาเป็นคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับทุกคนจะทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน วันนี้ตนเท่าที่คุยกันอยู่ใน ครม.ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร
ยกคดีสอย ‘ปารีณา’ ให้ทุกคนเคารพกฎหมาย
ส่วนกรณีศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ พ้นจากการเป็น ส.ส.และตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต กรณีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งต้องอยู่กันด้วยกฎหมาย ก็ต้องระมัดระวัง วันนี้ตนคิดว่าหลายอย่างเกิดบรรทัดฐานใหม่ขึ้นมาแล้ว นี่คือการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น ควรต้องระมัดระวังอย่างที่สุด หลายอย่างก็บอกไปแล้ว
ถามว่าถือเป็นการป้องปรามนักการเมืองด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ทุกคนคงไม่เฉพาะนักการเมือง ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย ฉะนั้นอะไรที่ทำมาแล้วผิดอะไรต่างๆ ก็รู้ตัวเองดีอยู่แล้วใช่หรือไม่ ก็แก้ปัญหาให้มันถูกต้อง เราไม่ได้เอาเป็นเอาตาย ไม่ได้เลือกปฏิบัติ และไม่ใช่เรื่องที่ตนไปดำเนินการ แต่เป็นเรื่องที่มีการฟ้องร้องกันมาใช่หรือไม่ กลไกกระบวนการยุติธรรมเขาก็ทำงานของเขา นี่คือสิ่งที่มีมาตรการมาตลอดระยะเวลา คือให้ทุกคนทำงานของเขา กระทรวงต่างๆ ก็ให้ทำงานของเขาตามนโยบายของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีที่ออกไปในทุกพื้นที่ ฉะนั้น ทุกคนได้ทำงานและมีส่วนร่วม หัวหน้าส่วนราชการ ปลัดกระทรวง มีโอกาสเสนอรัฐมนตรีเรื่องนั้นเรื่องนี้ นอกจากนโยบายที่กำหนดจากข้างบนลงไป
“หลายอย่างเกี่ยวพันกันหมด จะทำอะไรก็ตามงบประมาณสำคัญสุด ไม่ว่าจะพื้นที่ไหนก็ตาม พื้นที่ปกครองพิเศษอะไรต่างๆ ก็ต้องใช้งบประมาณทั้งสิ้น งบประมาณตัวเองไม่พออยู่แล้ว มันต้องอาศัยงบประมาณจากรัฐบาลกลางอยู่แล้ว มันต้องอาศัยงบประมาณจากรัฐบาลกลาง ถึงแม้จะมีการปกครองพิเศษก็ตาม และต้องทำตามนโยบายหลักของรัฐบาลด้วย ไม่ใช่อิสระทั้งหมด ฉะนั้นการกระจายอำนาจสิ่งสำคัญอะไรที่กระจายไปแล้วทำยังไม่ได้หรือทำได้ไม่ดีนัก ก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการพิจารณากันอยู่ กิจกรรมใดที่ทำแล้วทำไม่ได้ และทำไม่ได้เพราะอะไร จะแก้ด้วยอะไรเขากำลังดำเนินการอยู่ จะไปเลิกโน่นเลิกนี่มันได้ที่ไหน รายได้แต่ละพื้นที่ไม่เท่ากัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า หลายคนอาจจะเสนอว่าจังหวัดนี้ก็ควรเป็นงบประมาณของจังหวัดนี้ เก็บภาษีได้ก็ใช้ตรงนี้ แล้วตกลงจะอยู่กันอย่างไรใช่หรือไม่ เมื่อใดก็ตามที่ประเทศไทยมีรายได้เกณฑ์เฉลี่ยทุกจังหวัดสูงใกล้กันทั้งหมดก็ค่อยว่ากันอีกที แต่ก็ต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควร ตอนนี้แก้ปัญหาด้วยการเร่งการลงทุนตรงโน้นตรงนี้