วันที่ 2 ก.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงไทม์ไลน์การทำหน้าที่ หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ว่า จะนำคณะรัฐมนตรีเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน วันอังคารที่ 5 กันยายน เวลา 17:00 น 

ส่วนวันที่ 6 กันยายน จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ เพื่อที่จะนัดพรรคร่วมทั้ง 11 พรรคมาสรุป มาเตรียมความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งคาดว่าจะมีในวันที่ 8-9 ก.ย. หรือ 11-12 ก.ย.นี้ โดยอยู่ในขั้นตอนระหว่างประสานกับรับสภาอยู่ จากนั้นเมื่อแถลงนโยบายเรียบร้อย จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนัดแรกต่อได้เลย 

ส่วนเรื่องร่างนโยบายนั้นก็ใกล้จะเสร็จแล้ว โดยจะนำเป็นผู้คุยกันในที่ประชุมวันที่ 6 ก.ย. 

เศรษฐา ยังได้ชี้แจงกรณีรายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่ไม่ได้ปรากฏชื่อของ ไผ่ ลิกค์ ที่ถูกคาดการณ์กันว่าจะเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในโควต้าของพรรคพลังประชารัฐ รวมถึง พิชิต ชื่นบาน ที่ได้ถอนตัวออกไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากทั้ง 2 คนยังไม่แน่ใจเรื่องคุณสมบัติ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติต่อไป จึงได้ให้เดินต่อในแง่ของการแต่งตั้ง ครม.มาทำหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน 

เศรษฐา ยังกล่าวขอบคุณทั้งสองคน พร้อมกับขอให้ไปตรวจคุณสมบัติให้เรียบร้อยอีกครั้งหนึ่ง หากไม่มีปัญหาตามกฎหมาย ก็พร้อมที่จะแต่งตั้งภายหลัง ยืนยันโควต้าทั้งสองคน 2 พรรคยังอยู่ ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่ก็ขอให้ใจเย็นๆ 

เมื่อถามว่า กรณีที่ พิชิต ไม่ขอรับตำแหน่งนั้นเพื่อเป็นการลดความกดดันจากข้อครหาเรื่องคุณสมบัติหรือไม่ เศรษฐา ระบุ พิชิต ได้ยืนยันว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ยังมีข้อท้วงติงมาเยอะ จึงไม่ต้องการให้ ครม.ลำบากใจ 

เมื่อถามว่า ก่อนที่จะเริ่มงานมีอะไรหนักใจหรือไม่ในการประสานทั้ง 11 พรรคร่วม เศรษฐา กล่าวว่า ไม่ ตนเชื่อมั่นว่าทุกพรรคและทุกรัฐมนตรี ที่มอบหมายตระหนักถึงปัญหาความเร่งด่วนของบ้านเมืองที่ต้องมีการเร่งแก้ไข 

"เพราะฉะนั้นเราทุกคนทราบดีว่า เวลาไม่คอยปัญหาถาถมเข้ามาเยอะ วันนี้เราทำงานกันทุกวันพยายามหยิบยกปัญหาที่เป็นปัญหาใหญ่ๆ โดยเฉพาะปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนแก้ไขให้ครบทั้งหมด จึงไม่ห่วงเพราะได้มีการพูดคุยกันแล้ว และรัฐมนตรีหลายคนก็มีความกังวลใจเรื่องบ้านเมืองอยู่ "

นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่า ได้ตอบรับเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติ ที่สหรัฐอเมริกา โดยจะเดินทางออกจากประเทศไทยในคืนวันที่ 18 ก.ย. และเริ่มภารกิจในวันที่ 19 ก.ย. ซึ่งจะมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไปด้วย อาทิ ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯและรมว.ต่างประเทศ เป็นต้น แต่ทั้งนี้การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน2023 ระหว่าง2-7 ก.ย. นั้นยืนยันว่าไม่ทัน 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรี จะนอนภายในห้องพักที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ เศรษฐา บอกว่า เดี๋ยวขอดูก่อน ต้องเข้าไปดูข้างในก่อน ตามความเหมาะสม เพราะกลัวเนื่องจากบ้านของตนเล็กไม่อยากทำความวุ่นวายให้กับเพื่อนบ้าน หากจะต้องนอนที่ทำเนียบ ก็คงไม่จะต้องปรับปรุงอะไร ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ ก็ไม่ได้สิ้นเปลืองอะไร ตนขอเอาเรื่องงานเป็นหลัก