นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่ามีความกังวลปัญหาภายใน โดยเฉพาะพวกวิจารณ์ผ่านโซเชียล โพสต์วิจารณ์นายกฯ ไม่รู้ว่าเกลียดชังอะไร ไปทำอะไรให้ใครเจ็บใจนักหนา ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเข้าใจประชาชน ว่าไม่ใช่ลูกน้อง หรือพลทหารในค่าย ที่สั่งซ้ายหันขวาหันได้ตลอดเวลา คนไทยมีแนวความคิดแตกต่างหลากหลาย ไม่ได้มีแค่กลุ่มคนติดรายการคืนความสุขงอมแงม ขาดไม่ได้ และที่วิพากษ์วิจารณ์ก็ตามผลงาน ไม่ต้องไปแก้ปัญหาโดยการตั้งศูนย์เฟคนิวเซ็นเตอร์ เพื่อปราบข่าวปลอม เพราะเสียงสะท้อนจากโซเชียล คือของจริง
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องประเมินผลงานตัวเองในรอบ 5 ปี ที่ผ่านมา ประชาชนพึงพอใจหรือไม่ ผลงานเด่นคืออะไร โพลหลายสำนักส่วนใหญ่ออกมาก็สอบตกตลอด การที่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า มีวันนี้เพราะพี่ 2 ป.นั้น อาจยังกล่าว ขอบคุณไม่ครบถ้วน สาเหตุที่ท่านได้เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรก เพราะท่านทำรัฐประหารยึดอำนาจมา ครั้งที่ 2 ท่านอาจต้องไปขอบคุณคนร่างรัฐธรรมนูญ คนคำนวณสูตร ส.ส.พิสดารจนได้ ส.ส.เอื้ออาทร ขอบคุณ ส.ว. 250 คนที่โหวตท่านมาเป็นนายกฯ รอบที่ 2 และระหว่างนี้หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองใดขึ้นมา ส.ว. 250 คนนี้ ก็พร้อมจะโหวตท่านกลับมาเป็นนายกฯ ตลอดเวลา
"พล.อ.ประยุทธ์ อย่ากังวลกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จนไม่เป็นอันทำอะไร ไม่มีใครเกลียดท่านเป็นการส่วนตัว แต่เพราะท่านพยายามอาสามาเป็นนายกฯ ครั้งแล้วครั้งเล่า ผลงานเด่นที่เป็นที่ประจักษ์แทบไม่มี เสียงวิจารณ์ในทางลบจึงดังเป็นธรรมดา ดังนั้น เอาเวลาไปทำงาน ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้ผล ถ้าผลงานดี เสียงวิจารณ์ก็เงียบไปเอง" นายอนุสรณ์ กล่าว
นอกจากนี้ นายอนุสรณ์ เปิดเผยอีกว่า ยังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนชาวจังหวัดนครพนมจำนวนมาก ที่ทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของผู้บริหาร อบจ.นครพนมยุคนี้ ที่เหมือนไม่สนใจทุกข์สุข ความเดือดร้อนของประชาชน ที่ประสบอุทกภัยจากพายุโพดุล และพายุคาจิกิ ทำความเสียหายให้กับเรือกสวน ไร่นา ถนนหนทาง ตลอดจนทรัพย์สินบ้านเรือนราษฎรจำนวนมาก
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ถ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด จะทราบว่า มวลน้ำจากหนองหาร สกลนคร กำลังไหลเข้ามายังลำน้ำก่ำ จ่อเข้าบ้านเรือนพี่น้องประชาชนในเขตจังหวัดนครพนมแล้ว ส่วนราชการและท้องถิ่นควรจะต้องระดมสรรพกำลังในการป้องกันน้ำท่วม แต่กลับปรากฎข่าว อบจ.นครพนม นำหัวคะแนนไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวชายทะเลจังหวัดระยอง เป็นรุ่นๆ หลายรุ่น โดยอาจใช้งบประมาณของท้องถิ่นบังหน้า จึงมีการแจ้งสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ลงตรวจสอบในทันที พร้อมทั้งระงับยับยั้งการดำเนินโครงการที่จะมีขึ้นในทำนองเดียวกันอีกหลายรุ่น ผู้บริหาร อบจ.นครพนมชุดนี้ เพิ่งได้รับอานิสงส์ จาก ม.44 ให้กลับเข้าปฏิบัติหน้าที่หลังจากถูก ม.44 พักงานไป พี่น้องประชาชนเห็นภาพ ใช้งบไปเที่ยวอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางความทุกข์ยากของประชาชน ถ้านำงบมาซ่อมแซมถนนที่เสียหาย หรือซื้อถุงยังชีพแจกจ่ายประชาชนที่ประสบอุทกภัย จะเป็นการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่ามากกว่า
"ขอฝากไปยังรัฐบาลว่า เห็นภาพการใช้งบประมาณของท้องถิ่นภายใต้การบริหารของรัฐบาลนี้แล้ว อดเป็นห่วงรัฐบาลที่มีนโยบายให้ท้องถิ่นใช้งบสะสม จำนวน 600,000 ล้านบาทอย่างมาก เพราะแทนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจกลายเป็นงบกระตุ้นหาเสียงของผู้บริหารท้องถิ่นและพวกพ้อง จึงขอฝาก สตง.วางมาตรการในการป้องกันและตรวจสอบการใช้งบประมาณอย่างรอบคอบ รัดกุม เพื่อให้งบประมาณถึงมือประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด" นายอนุสรณ์ กล่าว