นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า จากการติดตามตรวจสอบสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ 17 จังหวัดวันนี้ (6 พ.ค.) คุณภาพอากาศมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจวัดได้ระหว่าง 17-35 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ส่วนค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ตรวจวัดอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ภาพรวมแนวโน้มค่าฝุ่นละอองเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ (5 พ.ค.) แต่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานโดยมีคุณภาพอากาศดีถึงดีมาก หลังพบจุดความร้อน (Hotspot) เพิ่มขึ้นในประเทศและนอกประเทศ
โดยยังไม่พบมีค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับสีแดง สีส้มและสีเหลือง เนื่องจากจังหวัดภาคเหนือ บริหารจัดการเชื้อเพลิง หลังประกาศห้ามเผาตั้งแต่ 1 พ.ค. เป็นต้นมาทำให้มีจุดความร้อนเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่ ทั้งนี้ได้ประสานกลุ่มจังหวัดภาคเหนือให้ควบคุมและดูแลตามมาตรการที่จังหวัดได้กำหนด เพื่อบริหารจัดการเชื้อเพลิงเป็นระยะ ประกอบกับภาคเหนือมีฝนตกในหลายพื้นที่ช่วยให้ฝุ่นละอองลดการสะสมลงได้
ขณะที่ปัญหาหมอกควันข้ามแดนในอนุภูมิภาคแม่โขงจุดความร้อน (Hotspot) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยเฉพาะจุดความร้อนในไทย สปป.ลาว และเวียดนามเพิ่มขึ้น แต่ในเมียนมาและกัมพูชาลดลง รวมถึงการดำเนินมาตรการแก้ปัญหาที่เข้มงวดทำให้สถานการณ์หมอกควันภาคเหนือดีขึ้น
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์สภาพอากาศภาคเหนือมีฝนตกต่อเนื่องระหว่างวันที่ 6-9 พ.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนระหว่างวันที่ 6-9 พ.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่และมีลมเข้ามาช่วยลดฝุ่นละอองได้บางส่วน