เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าทุ่มสรรพกำลังในการส่งมอบความช่วยเหลือไปยังเมืองฮัวเหลียน ตามแนวชายฝั่งตะวันออกของเกาะไต้หวัน ซึ่งมีอาคารหลายสิบหลังพังทลายลง เนื่องจากชั้นล่างสุดของอาคารถล่มลงจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว นอกจากนี้ ยังมีรายงานสะพานและอุโมงค์พังถล่ม และยังมีถนนได้รับความเสียหายจากเหตุหินและดินถล่ม
เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี (4 เม.ย.) สำนักงานดับเพลิงแห่งชาติไต้หวันรายงานความคืบหน้าว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหวแล้วอย่างน้อย 1,038 ราย ในขณะที่ยังมีผู้สูญหายและไม่สามารถติดต่อได้อยู่อีก 52 ราย อย่างไรก็ดี ทางการไต้หวันยังรายงานยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 9 ราย ซึ่งร่างทั้งหมดถูกพบในเมืองฮัวเหลียน โดยผู้เสียชีวิต 3 รายอยู่ในกลุ่มคนเดินป่าในอุทยานแห่งชาติทาโรโกะในตอนเช้า หลังจากเหตุแผ่นดินไหวทำให้เกิดเหตุหินถล่ม
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไต้หวันกล่าวว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ใช้โดรนและเฮลิคอปเตอร์เพื่อค้นหาผู้คนที่คิดว่าติดอยู่ในอุทยานแห่งนี้ ในขณะที่ยังมีคนงานประมาณ 38 คนยังคงสูญหายไประหว่างที่พวกเขากำลังเดินทางไปโรงแรมในอุทยาน ทั้งนี้ มีรายงานการเพื่อนร่วมงานบางส่วนของคนงานกลุ่มดังกล่าวถูกพบในอาการปลอดภัยดี
ไต้หวันตั้งอยู่บนรอยต่อเปลือกโลกระหว่างแผ่นยูเรเชียนและแผ่นทะเลฟิลิปปินส์ ทั้งนี้ ไต้หวันเกิดเหตุแผ่นดินไหวอยู่หลายครั้ง และทางการไต้หวันมีการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับเหตุแผ่นดินไหวไว้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานติดตามแผ่นดินไหวคาดว่า แรงสั่นสะเทือนอาจจะอ่อนลงกว่ามาก และจะไม่มีการส่งการแจ้งเตือนตามปกติ
เหตุแผ่นดินไหวไต้หวันในครั้งนี้ ซึ่งหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นระบุเบื้องต้นว่ามีขนาด 7.5 ริกเตอร์ ในขณะที่สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ ระบุความรุนแรงไว้ที่ระดับ 7.4 ริกเตอร์ เกิดขึ้นห่างจากเมืองฮัวเหลียนไปทางตอนใต้ประมาณ 18 กิโลเมตร
ทั้งนี้ เหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าวทำให้เกิดความตื่นตระหนกอย่างเป็นวงกว้างในกรุงไทเป ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปจากเมืองฮัวเหลียนกว่า 100 กิโลเมตร โดยในกรุงไทเปนั้น มีรายงานอาคารต่างๆ สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และทำให้เกิดการแจ้งเตือนสึนามิจากทางตอนใต้ของญี่ปุ่นถึงฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้บันทึกเหตุอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นตามมากว่าอีกหลายครั้ง
ไต้หวันเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาดนี้ครั้งก่อนในปี 2542 ด้วยแผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริกเตอร์ ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปประมาณ 2,400 ราย และยังมีผู้ได้บาดเจ็บกว่าอีก 10,000 ราย
ที่มา: