ไม่พบผลการค้นหา
ชิงช้าสวรรค์เป็นเครื่องเล่นที่อยู่คู่กับเทศกาลงานเฉลิมฉลองทั่วโลก แต่ผู้อยู่เบื้องหลังชิงช้าสวรรค์ในเมียนมาอาจจะแปลกกว่าที่อื่น เพราะต้องเสี่ยงอันตรายเพื่อสร้างความสนุกให้กับผู้เล่น

ทีมชิงช้าสวรรค์ในเมืองตองจี รัฐฉานของเมียนมา มักจะย้ายเครื่องเล่นของพวกเขาไปตามงานวัดหรืองานบุญ รวมถึงงานประเพณี และตลาดขายสินค้าในพื้นที่ต่างๆ ทั่วรัฐ เพื่อให้บริการแก่ประชาชนที่ต้องการชมทิวทัศน์จากมุมสูงหรือต้องการความสนุกสนานเพลิดเพลินจากการเล่นเครื่องเล่นประเภทนี้

'อองเส่ง-พโย' เจ้าหน้าที่ควบคุมชิงช้าสวรรค์คนหนึ่ง บอกกับสื่อต่างประเทศว่า เขาเริ่มทำงานในทีมชิงช้าสวรรค์ตั้งแต่อายุได้ 9 ปี โดยตอนแรกก็เป็นการแอบทำไม่ให้พ่อแม่รู้ และในตอนหลังก็หันมาเป็นทีมงานเต็มตัว ซึ่งเขาบอกด้วยว่า งานนี้เป็นงานอันตราย พ่อกับแม่จึงไม่อยากให้เขาไปยุ่งเกี่ยวด้วยมากนัก

AFP-ทีมงานชิงช้าสวรรค์ที่ใช้แรงงานคนหมุน-3.jpg

สาเหตุที่การควบคุมชิงช้าสวรรค์ในเมียนมาเป็นเรื่องอันตราย เพราะเครื่องเล่นประเภทนี้ไม่มีเครื่องยนต์กลไกควบคุมเหมือนที่อื่น แต่ต้องใช้แรงคนโหนและเหวี่ยงให้แกนกระเช้าหมุนไปข้างหน้า ทีมงานจึงต้องปีนขึ้นไปบนโครงสร้างชิงช้าสวรรค์ที่อยู่สูงกว่าพื้นดินประมาณ 20 เมตร เพื่อจะทำให้ชิงช้าสวรรค์เคลื่อนไปในแต่ละรอบ

ส่วนทีมงานที่อยู่ด้านล่างก็จะต้องประคองและส่งให้กระเช้าของชิงช้าสวรรค์เคลื่อนไปด้วยความเร็วคงที่ ซึ่งการจะขับเคลื่อนชิงช้าสวรรค์ด้วยวิธีนี้อาศัยแรงคนหลายคน และต้องทำงานอย่างสอดคล้องกัน ถ้าใครผิดจังหวะแม้แต่นิดเดียวก็อาจบาดเจ็บร้ายแรงได้

AFP-ทีมงานชิงช้าสวรรค์ที่ใช้แรงงานคนหมุน-2.jpg

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ทีมงานชิงช้าสวรรค์ในเมียนมาต้องทำงานติดต่อกันไม่มีวันหยุดตลอด 9 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่เมียนมามักจะจัดงานกลางแจ้งต่างๆ พวกเขาจึงต้องตระเวนไปร่วมงานในพื้นที่ต่างๆ และจะได้หยุดยาวช่วง 3 เดือนที่เป็น 'ฤดูมรสุม' ส่วนค่าแรงที่ได้รับต่อเดือนจะอยู่ที่คนละประมาณ 70 ถึง 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2,100 ถึง 3,000 บาท

ทีมงานชิงช้าสวรรค์หลายคนยอมรับค่าแรงในอัตรานี้ได้ และเข้าใจดีถึงความเสี่ยงจากการทำงาน จึงเลือกที่จะทำงานนี้ต่อไป เพราะรู้สึกว่าเป็นงานที่สนุกสนานดี ได้สร้างเสียงหัวเราะและความตื่นเต้นให้ผู้คน แต่ก็ยอมรับว่า นี่อาจจะเป็นงานเดียวที่เขามีความรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร แต่บอกไม่ได้ว่าถ้ามีทางเลือกที่ดีกว่านี้จะย้ายงานหรือไม่

ที่มา: The National/ Strait Times