ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. กลุ่มแกนนำผู้ชุมนุม Mob Fest เวทีย่อยใกล้บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ร่วมด้วยแนวหน้าการ์ดอาสา จัดกิจกรรมนำผ้าขาวที่ให้ประชาชนร่วมเขียนความในใจขึ้นคลุมอนุสาวรีย์ฯ หวังแสดงการประท้วงเชิงสัญลักษณ์
เหตุการณ์ข้างต้นส่งให้เกิดความชุลมุนเล็กน้อย เป็นเวลาประมาณ 20 นาที เนื่องจากตั้งแต่ที่มีการจัดชุมนุมเวลาประมาณ 14.00 น. มีเจ้าหน้าที่มาคอยยืนกันไม่ให้มวลชนเข้าถึงบริเวณที่ตั้งของอนุสาวรีย์ฯ ทั้งนี้เมื่อกลุ่มการ์ดดันแนวเจ้าหน้าที่เพื่อต้องการนำผ้าขาวดังกล่าวขึ้นไปคลุมอนุสาวรีย์ฯ เจ้าหน้าที่ยอมถอยในที่สุด
เมื่อเหตุการณ์คลี่คลาย แกนนำ Mob Fest ขึ้นชี้แจงว่าเหตุชุลมุนเกิดจากความเข้าใจผิดระหว่างการ์ดผู้ชุมนุมและกลุ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จนทำให้มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากทั้งสองฝั่ง
ล่าสุดเวลาประมาณ 18.35 น.สถานการณ์กลับเข้าสู้ภาวะปกติ ซึ่งตามกำหนดการชี้ว่า การชุมนุมครั้งนี้จะจัดขึ้นถึงเวลาประมาณ 24.00 น.
กลุ่ม MOB FEST #แก้ได้ถ้าแก้รัฐธรรมนูญ ออกแถลงการณ์ มีเนื้อหาระบุว่า ในนามของมวลชนผู้ศรัทธาในประชาธิปไตย ทั้งกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาราษฎร ทั้งหลายผู้มีศักดิ์ศรีเสมอหน้ากันทั้งสิ้น ผู้เป็นเจ้าของผืนดินที่ตนยืนเหยียบเรามารวมกันในวันนี้ ณ สถานที่แห่งประวัติศาสตร์ถนนเส้นนี้เคยเป็นที่หยัดยืนของรอยเท้านับแสนที่ลำเลียงเอาความมุ่งมาด ปรารถนาดีต่อประเทศชาติ มาเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจรับฟัง ไมได้หวังก่อการชั่วช้าหรือล้มล้างสิ่งใด ในวันนี้ก็เช่นกัน เราทุกคนมาเพื่อสร้างประวัติศาสตร์ราษฎรบทใหม่ มาเพื่อขอแก้ไขสิ่งอันควรปรับปรุง และเพื่อเรียกร้องสิ่งอันพึงได้รับตามหลักสิทธิเสรีภาพ ตามหลักการดังนี้
1.สมาชิกรัฐสภาทั้งหลาย ต้องเปิดทางสู่การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ในทุกหมวด ทุกมาตรา ซึ่งแท้จริงแล้ว เป็นสิทธิโดยชอบธรรมของราษฎร ทั้ง ส.ส. ส.ว. และเหล่าผู้บริหารประเทศ ต้องพึงระลึกให้มั่นว่า ตามระบอบประชาธิปไตยในสากล ประชาชนคือเจ้าของประเทศ เป็นเจ้าของเงินทุกบาท และยังเป็นเจ้านายที่แท้จริง เสียงของประชาชนจึงถือเป็นสำคัญที่สุด เมื่อประชาชนต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามสิทธิที่มี สมาชิกสภาอัรทรงเกียรตทั้วหลายก็ต้องเร่งดำเนินการให้เรื่องญัตติการแก้รัฐธรรมนูญได้รับการบรรจุลงในวาระการประชุมอย่างเร่งด่วน อย่าหาทางถ่วงเวลา อย่าหลงลืมหน้าที่ที่ต้องรับฟังเสียงของประชาชนผู้เป็นใหญ่ และอย่าให้ใครมาตราหน้าได้ว่าเป็นคนเนรคุณต่อประชาชน
2.รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีต้องยอมรับความจริงว่า ความชอบธรรมทุกประการในฐานะผู้ปกครอง หมดสิ้นลงไปแล้ว ทุกการกระทำที่เป็นการดันทุรัง ยื้อเวลา หวงอำนาจ รังแต่จะสร้างภาพลักษณ์อันน่ารังเกียจติดตัวไปตลอด ชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากคุณเชื่อมั่นว่าเข้ามาเพื่อ แก้ไขปัญหาของประเทศ ณ ขณะนี้ ปัญหาของประเทศคือรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 คือคณะรัฐบาลในการนำของคุณ และปัญหาสำคัญที่สุดก็คือตัวคุณเอง โปรดใช้จิตสำนึกที่ยังมีหลงเหลือไตร่ตรองดู แล้วคุณจะเห็นว่า หากคุณเลือก ฟังประชาชน จงลาออก และเปิดทางให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อร่างใหม่ทั้ง ฉบับ จะเป็นการก้าวลงจากตำแหน่งที่ดีที่สุดที่คุณจะทำได้
3.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่นำเสนอโดย iLaw เป็นเสมือนเสียง ที่ถูกเปล่งจากราษฎรที่เห็นพ้องต้องกัน มีหลักฐานชัดเจนกว่าแสนรายชื่อ ถือ เป็นมติประชาชน ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้จึงมีความสำคัญ เราขอเน้นย้ำว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนต้องไม่ถูกปัดตกในสภา และต้องไม่ถูกแปรญัตติให้เป็นอื่น กลไกและกลโกงทางกฎหมายทุกมาตราที่มีไว้เพื่อสืบทอด อำนาจต้องถูกปลดเปลื้อง ไม่มีนายกคนนอก ไม่มียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เริ่มที่การแก้มาตรา 256 ลดอำนาจของ ส.ว. เพิ่มอำนาจให้ประชาชนได้กำหนดผู้ที่จะมีสิทธิมาทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ หรือ ส.ส.ร. โดย ส.ส.ร. ต้องมาจากการเลือกตั้งเท่านั้น มิเช่นนั้นการแก้ไขหรือร่างรัฐธรรมนูญจะเป็นเพียงละครตบตาอันน่าสมเพชฉากหนึ่ง ดังเช่นการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
4.รัฐธรรมนูญทุกหมวดที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ จะต้องถูกนำมาพิจารณาใหม่ให้สมเหตุสมผล ทันต่อยุคสมัย
นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังยืนยัน ใน 3 ข้อเรียกร้องหลักคือ
พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ทวีตข้อความระบุว่า ไป MobFest วันนี้สนุกมาก ได้หนังสือ 1 เล่ม เข้าชื่อแก้กฎหมาย 2 ฉบับ คือปลดแอกสุรา และอาชีพค้าบริการถูกกฎหมาย ได้เขียนกลอนจิต ภูมิศักดิ์ ให้กำลังใจนักโทษการเมืองด้วย
นอกจากนี้ พรรณิการ์ ยังทวีตภาพข้อความที่เขียนบนผ้าสีขาวที่ถูกนำไปคลุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยวันนี้อีกด้วย ซึ่งข้อความดังกล่าวระบุว่า "อำนาจสูงสุดต้องเป็นของประชาชน รัฐธรรมนูญต้องมาจากประชาชน โดยประชาชนเพื่อประชาชน"
ไป #MobFest วันนี้สนุกมาก ได้หนังสือ 1 เล่ม เข้าชื่อแก้กฎหมาย 2 ฉบับ คือปลดแอกสุรา และอาชีพค้าบริการถูกกฎหมาย ได้เขียนกลอนจิต ภูมิศักดิ์ ให้กำลังใจนักโทษการเมืองด้วย #ม็อบ14พฤศจิกา pic.twitter.com/2fDCs4hWhD
— Pannika Wanich (@Pannika_FWP) November 14, 2020
ไม่มีอะไรมาก แค่อยากจะอวดว่าผ้าคลุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยวันนี้ มีข้อความของดิฉันด้วย 🧡 #ม็อบ14พฤศจิกา #MobFest pic.twitter.com/jwUrP0LpeN
— Pannika Wanich (@Pannika_FWP) November 14, 2020
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.30 น.ขบวนเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เคลื่อนผ่าน เพื่อเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีสนาไชยเขต เมื่อผ่านถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผู้ชุมนุมลุกขึ้นพร้อมกัน แล้วหันหลังให้ขบวนเสด็จฯ เเละได้ชูสามนิ้ว และร้องเพลงชาติร่วมกัน โดยสมเด็จพระราชินี โบกมือให้กับประชาชนฝั่งที่มารอรับเสด็จ ตลอดเส้นทางที่มีประชาชนมาเฝ้ารับเสด็จ