'อเดล' นักร้องชื่อก้องโลกจากอังกฤษวัย 33 ปี กลับมาอย่างยิ่งใหญ่กับอัลบั้ม '30' ที่มีเพลงดังถูกปล่อยออกมาแล้วอย่าง 'Easy On Me' บทเพลงและอัลบั้มที่เธอเปิดเผยว่าเป็นการบอกเล่าเรื่องราวส่วนตัวอย่างมาก โดยเฉพาะกับความรู้สึกหลังการหย่าร้างกับอดีตสามี และเป็นผลงานเพลงที่ทำขึ้นเพื่อ 'ลูกชาย' วัย 9 ขวบของเธอ ที่ต้องก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากทางจิตใจ
อเดลให้สัมภาษณ์อย่างเป็นกันเองใน 'One Night Only' รายการสัมภาษณ์พิเศษของ 'โอปราห์ วินฟรีย์' พิธีกรชื่อดังระดับโลกที่ก่อนหน้านี้ได้ทำการสัมภาษณ์คู่รักที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในปี 2564 อย่าง 'เจ้าชายแฮร์รี-เมแกน มาร์เคิล'
อเดลเผยว่าตลอดชีวิตการแต่งงานของเธอ สิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดคือครอบครัวที่ประกอบไปด้วย พ่อ-แม่-ลูก เพราะเธอไม่เคยมาจากครอบครัวที่มีความพร้อมหน้าพร้อมตานั้น เนื่องจากพ่อของเธอได้ทิ้งครอบครัวไปเมื่อเธออายุได้เพียง 2 ขวบเท่านั้น "ตั้งแต่ตอนเด็กๆ ฉันเคยสัญญากับตัวเองว่าถ้าฉันมีลูก เราจะอยู่ด้วยกัน ซึ่งฉันก็ได้พยายามแล้วพยายามอีกอยู่เป็นเวลานานมาก"
Easy On Me สะท้อนความเจ็บปวดของอเดลอย่างชัดเจน ดังเช่นในเนื้อร้องท่อนหนึ่งที่ร้องว่า...
"You can't deny how hard I've tried. I changed who I was to put you both first, but now I give up." ซึ่งหมายถึง "คุณปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าฉันพยายามหนักแค่ไหน ฉันต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อที่จะให้ความสำคัญกับคุณทั้งสอง(สามีและลูก)เป็นอันดับแรก แต่ตอนนี้ฉันยอมแพ้แล้ว"
เนื้อหาในบทเพลงที่มีการเปิดเผยเรื่องราวในชีวิตส่วนตัวอย่างมาก อเดลกล่าวกับวินฟรีย์ว่าเธอต้องการที่จะบอกกับทุกคนว่า "เราต่างก็กำลังเผชิญกับสิ่งเดียวกัน"
อเดลรู้ตัวว่าเธอไม่มีความสุขกับชีวิตคู่อีกต่อไปตอนที่ลองนั่งทำแบบทดสอบบุคลิกภาพเล่นๆ ในแมกกาซีนเล่มหนึ่งกับเพื่อนๆ ซึ่งมีคำถามว่า "อะไรคือสิ่งที่ไม่มีใครเคยรู้เกี่ยวกับคุณ" ซึ่งคำตอบของอเดลคือ "ฉันไม่มีความสุขเลย ฉันไม่ได้ใช้ชีวิต ฉันแค่อยู่ไปเรื่อยๆ กับมัน"
"ปกติฉันจะจริงจังกับเรื่องการแต่งงานมากๆ... แต่มันเหมือนกับว่าฉันไม่ได้จริงจังแบบนั้นแล้ว และราวกับว่าฉันไม่เคารพมันอีกต่อไปด้วยการแต่งงานก่อนที่จะตัดสินใจหย่าอย่างรวดเร็ว ฉันรู้สึกอับอายอย่างมากเพราะมันจบลงเร็วจริงๆ" อเดลกล่าวกับวินฟรีย์
การแยกทางกับอดีตสามีหลังจากพยายามยื้อมานานส่งผลให้อเดลรู้สึก "เป็นอัมพาตไปทั้งตัว" โดยเธอเล่าว่าการออกกำลังกายจนน้ำหนักหายไปราว 45 กก.นั้นเป็นหนทางเดียวที่เธอสามารถควบคุมอาการวิตกกังวลรุนแรงได้
"ฉันมีอาการวิตกกังวลที่น่ากลัวที่สุดและมันเกิดขึ้นหลังการหย่า มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเป็นอัมพาตไปทั้งตัว และมันทำให้ฉันสับสนเพราะฉันไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้อีกต่อไป" อเดลกล่าวระหว่างการสัมภาษณ์ พร้อมเผยว่าการไปออกกำลังกายที่ยิมทำให้เธอไม่รู้สึกถึงความวิตกกังวลนั้น มันทำให้เธอตัดสินใจไปออกกำลังกายทุกวันโดยมีเทรนเนอร์ที่เธอไว้ใจ "มันทำให้ฉันตั้งสติได้"
เมื่อวินฟรีย์พูดถึงประสบการณ์ส่วนตัวในการเริ่มควบคุมอาหารของเธอเอง และมันทำให้ผู้คนจำนวนมากไม่พอใจเพราะรู้สึกว่าพิธีกรดังกำลังเดินสู่เส้นทางของการลดน้ำหนัก และเป็นการทอดทิ้งแฟนๆ ที่มีรูปร่างใกล้เคียงกันกับเธอไว้ข้างหลัง อเดลผู้ซึ่งมีประสบการณ์ไม่ต่างกันเพราะถูกวิจารณ์บ้างว่า "ผอมเกินไป" แสดงความเห็นว่าเธอ "ไม่แปลกใจเลย"
"ฉันไม่รู้สึกช็อคเลยที่ได้ยินแบบนั้น ตลอดอาชีพการเป็นนักร้องของฉัน ร่างกายของฉันถูกทำให้เป็นเหมือนสิ่งของมาโดยตลอด ไม่อ้วนเกินไปก็ผอมเกินไป ถ้าไม่ฮ็อตมากก็คือไม่ฮ็อตเลย"
"แต่มันไม่ใช่หน้าที่อะไรของฉันที่จะไปบอกผู้คนให้รู้สึกโอเคกับรูปร่างของตัวเอง ฉันรู้สึกไม่ดีที่เรื่องนี้มันทำให้ใครหลายคนต้องรู้สึกแย่กับตัวเอง แต่นั่นไม่ใช่หน้าที่ของฉันจริงๆ ฉันพยายามจะหาทางออกให้กับชีวิตของตัวเองอยู่ ฉันไม่สามารถเพิ่มความกังวลให้กับชีวิตไปมากกว่านี้ได้"
การโด่งดังขึ้นมาของอเดลในวัยเพียง 20 กว่าปี สร้างผลกระทบให้กับเธอไม่น้อยไปกว่าคนดังระดับโลกคนอื่นๆ 'ไซมอน โคเน็กกี' อดีตสามีคือคนที่เข้ามาช่วยชีวิตของเธอเอาไว้ โดยอเดลเล่าว่าท่ามกลางความโกลาหลที่เกิดขึ้นในชีวิต โคเน็กกีเป็นคนที่ "มั่นคง" ที่สุดเท่าที่เธอเคยรู้จักในชีวิตตอนนั้น มันทำให้เธอมีที่ยึดเหนี่ยวและไม่หลงเดินไปในเส้นทางที่ผิด "แม้กระทั่งตอนนี้ฉันก็ยังเชื่อใจเขาที่สุดในชีวิต"
แม้ทั้งคู่จะหย่าร้างกันแล้ว แต่เธอเผยว่ายังคง 'รัก' อดีตสามีอยู่ แม้จะไม่ใช่ความรักแบบที่กำลัง 'อินเลิฟ' กันก็ตาม ปัจจุบันทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่บ้านตรงข้ามกันในนครลอสแอนเจลิส และร่วมกันดูแลลูกชาย 'แอนเจโล เจมส์ โคเน็กกี' วัย 9 ขวบแบบ Co-Parenting