วันที่ 5 ก.พ. 2566 ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นิด้าโพลเผยผลสำรวจประชาชน เรื่อง “คนโคราชเลือกพรรคไหน” โดยบุคคลที่คนโคราชจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีอันดับ 1 ร้อยละ 37.80 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พรรคเพื่อไทย ขณะที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่อันดับ 3 ร้อยละ 11.73 ระบุว่าเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรครวมไทยสร้างชาติ
ส่วนพรรคการเมืองที่คนโคราชมีแนวโน้มจะเลือกให้เป็น ส.ส. แบบแบ่งเขต ในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 48.40 คือพรรคเพื่อไทย ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้อันดับ 3 ได้ร้อยละ 8.53
ในขณะที่พรรคการเมืองที่คนโคราชมีแนวโน้มจะเลือกให้เป็น ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อในวันนี้ อันดับ 1 ร้อยละ 47.60 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้อันดับ 3 ร้อยละ 8.67 นั้น ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ไว้วางใจให้พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคอันดับหนึ่งที่ยังครองใจประชาชนอยู่ สะท้อนว่าพรรคเพื่อไทยคือความหวังที่จะช่วยให้พี่น้องประชาชนหลุดพ้นออกจากความทุกข์ยาก และมีความหวังกับผู้นำของพรรคที่จะเข้ามาขจัดความทุกข์ยากตลอดห้วงระยะเวลากว่า 8 ปีที่ผ่านมา ทั้งหมดถือเป็นกำลังใจให้พรรคเพื่อไทยได้มุ่งมั่นเดินหน้านำเสนอแนวนโยบาย ลงพื้นที่พบปะ และรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนต่อไป โดยเฉพาะจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งถือเป็นประตูสู่ภาคอีสาน เป็นนิมิตรหมายอันดีว่า เสียงสนับสนุนดังกล่าวจะปูทางไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ในภาคอีสาน สู่เป้าหมายที่พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน ซึ่งถือเป็นชัยชนะของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน
ทั้งนี้ จากการที่ตนได้ลงพื้นที่พบปะประชาชนในช่วงที่ผ่านมา ที่ได้สะท้อนเข้ามาว่า พี่น้องประชาชนต้องการเปลี่ยนแปลง ต้องการรัฐบาลเพื่อไทยเข้ามาแก้ไขปัญหาปากท้อง และสินค้าราคาเกษตรตกต่ำ ซึ่งพรรคเพื่อไทยเองได้มีนโยบายที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าวหลายด้าน เช่น นโยบายส่งเสริมให้เกิดการเลี้ยงโค-กระบือในเชิงอุตสหกรรมการเกษตร แปรเปลี่ยนอุตสาหกรรมเกษตรสู่อาหาร เพิ่มรายได้หลักให้กับประชาชน
“ยิ่งพลเอกประยุทธ์ลงพื้นที่ โพลก็ยิ่งตก ความนิยมของรัฐบาลประยุทธ์ถดถอยลงเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความเบื่อหน่ายของประชาชนต่อการบริหารงานที่ล้มเหลวตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ถ้าพรรคเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจกลับมาเป็นรัฐบาล จะมุ่งหน้าทำงานแก้ไขปัญหาเพื่อพลิกฟื้นชีวิตใหม่ให้พี่น้องประชาชนเนื่องจากความทุกข์ของพี่น้องประชาชน รอช้าไม่ได้” ชญาภา กล่าว