วันนี้ ( 26 ก.พ. 2568 ) นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงร่างพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ...) พ.ศ. … ว่า พ.ร.บ. ฉบับนี้ไม่ได้ปรับปรุงมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2494 จึงไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่เปิดให้การท่าเรือนำที่ดินของตนไปพัฒนาเป็นธุรกิจอื่นได้มากนัก และไม่เปิดให้มีการลงทุนในรูปแบบใหม่ๆ จึงทำให้เสียโอกาสทางเศรษฐกิจในการพัฒนาที่ดินไปไม่น้อย ยกตัวอย่างเช่น ที่ดินท่าเรือกรุงเทพที่คลองเตย มีพื้นที่ประมาณ 2,350 ไร่ มูลค่ากว่าแสนล้านบาท มีความสะดวกสบายในการสัญจรเพราะอยู่กลางเมือง เชื่อมต่อกับทางด่วน รถไฟฟ้า และการเดินทางทางน้ำ รัฐบาลในอดีตเคยมีแนวคิดเรื่องการพัฒนาเป็น Smart City Port แต่ยังทำไม่ได้ เพราะติดเงื่อนไขเรื่องข้อกฎหมายและการลงทุน แต่หากมีการปลดล็อคนี้แล้วก็จะทำให้การลงทุนนี้สามารถเป็นไปได้จริง หรืออาจเป็นรูปแบบอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อภาพรวมเศรษฐกิจมากกว่าด้วยก็ได้ เช่น สามารถนำที่ดินบางส่วนของการท่าเรือนี้ มาทำเป็น Cruise Terminal  หรือเป็น Hub ของท่าเรือสำราญ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับการท่องเที่ยว ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง และส่งเสริมการเดินทางน้ำท่องเที่ยวตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยา ตามแนวคิดของรัฐบาลปัจจุบัน

นายชนินทร์ กล่าวว่า การปรับปรุง พ.ร.บ.ฉบับนี้ จะเพิ่มความคล่องตัวในการลงทุนและเปิดกว้างในรูปแบบของการพัฒนาที่ดิน ให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย สามารถตั้งบริษัทลูกมาดำเนินธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องได้ สามารถนำที่ดินที่มีศักยภาพสูงของการท่าเรือฯ มาพัฒนาเป็นอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆที่ตอบโจทย์กับบริบท และสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจมากขึ้นได้ ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นการ ส่งเสริมการพัฒนาที่ดินของการท่าเรือฯ โดยลดการพึ่งพางบประมาณรัฐและยัง สร้างรายได้ใหม่ให้กับการท่าเรือฯอีกด้วย และเมื่อการท่าเรือสามารถมีโอกาสได้ลงทุนใหม่ๆ หรือร่วมทุนกับเอกชนต่างๆในการพัฒนาพื้นที่เหล่านี้ ก็จะเป็นโอกาสให้ ยกระดับเทคโนโลยีการขนส่ง และนำรายได้อื่นมาชดเชย เพื่อลดต้นทุนการขนส่งในภาพรวมลง และสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้านการขนส่งของประเทศไทยได้ในที่สุด

“การแก้ไขกฎหมายครั้งนี้ จะเป็นกลไกสำคัญของการเดินหน้าสู่การเป็น Logistic Hub ตามนโยบายของรัฐบาล ให้ประเทศไทยเป็น ศูนย์กลางของขนส่งคน-ขนส่งของ ของภูมิภาคนี้ และส่งเสริมให้เกิดการลงทุนใหม่ๆในประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเสริมขีดความสามารถทางการแข่งขันให้ประเทศไทย ให้ได้ โดยเร็ว” นายชนินทร์กล่าว