ไม่พบผลการค้นหา
แม้ว่า 'พินเทอเรสต์' จะเป็นแอปพลิเคชันออนไลน์ที่มีผู้ใช้งานมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่ผู้ก่อตั้งแอปฯ สนับสนุนผู้คนให้ใช้ชีวิต 'ออฟไลน์' แทนที่จะสนใจแต่ความเป็นไปในโลกไซเบอร์

เบน ซิวเบอร์แมน ผู้ก่อตั้ง พินเทอเรสต์ แอปพลิเคชั่นที่อนุญาตให้ผู้ใช้งาน "พิน" (ปักหมุด) รูปภาพต่างๆที่อยู่ในแอปพลิเคชั่น ลงมาไว้ใน "บอร์ด" (กระดาน) ส่วนตัว กล่าวว่า เป้าหมายหลักในการก่อตั้งแอปพลิเคชันช่วงแรก คือ การให้แรงบันดาลใจกับผู้ใช้งาน โดยหวังว่าจะกระตุ้นให้พวกเขาออกไปใช้ชีวิตในโลกจริง ซึ่งเป็นโลกแบบ 'ออฟไลน์'

โดยเขาให้เหตุผลประกอบว่า ผู้ใช้งานพินเทอเรสต์สามารถเข้ามาดูสูตรอาหาร หรือการวางแผนแต่งงานได้อย่างสะดวกและเป็นหมวดหมู่ แต่สุดท้าย ผู้ใช้งานก็ต้องออกไปทำอาหาร และไปแต่งงานในชีวิตจริงๆ

พินเทอเรสต์
"(พินเทอเรสต์) ไม่ใช่การตามข่าว การเพิ่มผู้ติดตาม การตามคนดัง มันคือความสนใจของคุณจริงๆ" ซิลเบอร์แมน กล่าว

พินเทอเรสต์เปิดตัวเมื่อปี 2553 โดยปัจจุบันมียอดผู้ใช้งานต่อเดือนอยู่ที่ 250 ล้านคน ซึ่งตามหลังเครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดังอื่นๆ มาติดๆ ทั้งทวิตเตอร์ อินสตาแกรม และเฟซบุ๊ก ที่มียอดผู้ใช้งานต่อเดือนอยู่ที่ 321 ล้านคน, มากกว่า 1 พันล้านคน และ 2.32 พันล้านคน ตามลำดับ

ย้อนกลับไป ณ จุดเริ่มต้น พินเทอเรสต์เริ่มต้นด้วยการเป็นเครื่องมือให้กับพ่อแม่ โดยเฉพาะบรรดา 'คุณแม่' ทั้งหลาย ได้รวบรวมสูตรอาหารหรือความสนใจในด้านต่างๆ เอาไว้ในบอร์ดของพินเทอเรสต์ ก่อนที่ผู้ใช้งานจะขยายไปยังกลุ่มมืออาชีพด้านความคิดสร้างสรรค์ และล่าสุด ซิลเบอร์แมนเพิ่งค้นพบว่า นักเขียนบทจากซีรีย์ดังในเน็ตฟลิกซ์ อย่าง Stranger Things ก็ยังใช้พินเทอเรสต์ในการสร้างกระดานอารณ์ (mood board) สำหรับธีมยุค 80 ของซีรีส์ดังกล่าว

พินเทอเรสต์มีเป้าหมายต่างจากคู่แข่งอื่นๆ เพราะตัวแอปพลิเคชันไม่มีการจ้างผู้มีอิทธิพลทางโซเชียลมาโปรโมต และบริษัทยังอนุญาตให้ผู้ใช้งานปิดกระดานตัวเองไม่ให้ผู้อื่นเห็นได้

"ผมคิดว่ามีหลายอย่างที่เราทำได้เพื่อเพิ่มตัวเลขผู้ใช้งานอย่างรวดเร็ว แต่นั่นไม่ได้อยู่ในจิตวิญญาณ (ของพินเทอเรสต์)" ซิลเบอร์แมน กล่าว

อย่างไรก็ตาม ซิลเบอร์แมนยอมรับว่า พินเทอเรสต์มีผลด้านลบต่อผู้ใช้งานเช่นเดียวกัน โดยอาจไปกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกเชิงวัตถุนิยมและบริโภคนิยมแทนที่จะเป็นการหาแรงบันดาลใจในการทำงานสร้างสรรค์อื่นๆ รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันและเสพติดการเป็นคนดังในโลกไซเบอร์ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้งานเฟซบุ๊กเช่นกัน

นอกจากนี้ พินเทอเรสต์เองก็เคยถูกใช้เพื่อการเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มแฮกเกอร์จากรัสเซียที่เข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2559 ด้วย

อ้างอิง; CNN