คิมกินัมใช้เวลาหลายทศวรรษในการเป็นผู้นำการโฆษณาชวนเชื่อในรัฐเผด็จการเกาหลีเหนือ รวมถึงการสร้างลัทธิบูชาตัวบุคคลของระบอบตระกูลคิมที่ปกครองประเทศอยู่มาจนถึงปัจจุบัน

KCNA รายงานว่า คิมจองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ เข้าร่วมงานศพของคิมกินัมในช่วงเช้าวันพุธ และแสดงความเคารพต่อ “นักปฏิวัติผู้มีประสบการณ์ ที่ยังคงภักดีอย่างไม่มีที่สิ้นสุด” ต่อระบอบการปกครองของเกาหลีเหนือ

ทั้งนี้ สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้เปรียบเทียบ คิมกินัม กับ โจเซฟ เกิบเบลส์ หัวหน้าฝ่ายโฆษณาชวนเชื่อของนาซีเยอรมนี ซึ่งเป็นที่รู้จักจากแนวคิดของเขาในการสร้างโฆษณาชวนเชื่อนาซี ให้มีการ "โกหกซ้ำๆ บ่อยๆ แล้วมันจะกลายมาเป็นความจริง"

คิมกินัม ซึ่งไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดใดๆ กับตระกูลคิมที่ปกครองเกาหลีเหนือ ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาชวนเชื่อและการก่อกวนของเกาหลีเหนือในปี 2509 ทั้งนี้ เขาทำงานอย่างใกล้ชิดกับ คิมจองอิล ผู้นำสูงสุดคนก่อนของเกาหลีเหนือ และเป็นบิดาของผู้นำคนปัจจุบันอย่าง คิมจองอึน ก่อนที่ คิมกินัม จะขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการของหน่วยงานในเวลาต่อมา

มีรายงานว่า คิมกินัม มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ คิมจองอิล ทั้งนี้ มีรายงานจากสื่อหลายฉบับระบุว่า พวกเขาเป็น "เพื่อนดื่มสังสรรค์" ของกันและกัน

ในช่วงทศวรรษที่ 1970 คิมกินัม ได้รับมอบหมายให้เป็นกระบอกเสียงของรัฐ ด้วยการดูแลหนังสือพิมพ์โรดองซินมุนของรัฐบาลเกาหลีเหนือ ต่อมา คิมกินัม ได้ริเริ่มสร้างบทบาทของ คิมอิลซุง ในฐานะบิดาผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือ ในประวัติศาสตร์ของประเทศ และเพื่อสนับสนุนการสืบทอดตำแหน่งผู้นำของ คิมจองอิล

เป็นเวลาหลายทศวรรษที่ คิมกินัม ยังทำหน้าที่เป็นผู้เขียนหลักของสโลแกนทางการเมืองของรัฐบาลเกาหลีเหนือ และใช้อิทธิพลอย่างมากต่อการดำเนินการด้านสื่อและสิ่งพิมพ์ของรัฐ แม้กระทั่งการใช้งานวิจิตรศิลป์ในการสร้างโฆษณาชวนเชื่อ

ก่อนหน้านี้ในปี 2558 มีภาพถ่ายโดยสื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือที่แสดงให้เห็น คิมกินัม ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รูปร่างสูงใหญ่สวมแว่นสายตา และมีอายุ 80 ปีในขณะนั้น โดยในภาพนั้น เขากำลังยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มเจ้าหน้าที่ทหารและจดบันทึกขณะที่ คิมจองอึน กำลังพูด

คิมกินัมเกษียณอาุยตัวเองในช่วงปลายทศวรรษ 2010 โดยเขาส่งต่อบทบาทของตัวเองให้กับ คิมโยจอง น้องสาวของ คิมจองอึน แต่คิมกินัมยังคงปรากฏตัวในงานสาธารณะต่อไป ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเขายังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลเกาหลีเหนือ

ที่มา:

https://www.bbc.com/news/articles/c13626468yno?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTAAAR3a-mcn8W3nxaCkhqfeCTmeg-Pkgb1e8YKXEYZMx1AOG_gaRsM7KI5JM6Y_aem_AUJENO_xfl-rop0WwQlc4A4eNwTHjjOyFu3Ne0a7UAQMFT4c5Xcm7HpX5VYUm4fu_E9xOsKmL2fj9Cm5aL1QLWv0