ผู้คนหลากหน้าที่เกาะกลุ่มกัน ณ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น ในเช้าวันที่ 10 พ.ค. ราวกว่า 100 คน ต่างกล่าวทักทายและไถ่ถามการเดินทางมาที่แห่งนี้ นับเป็นเวลากว่าสองปีที่พวกเขาเฝ้ารอและคอยหา ไผ่ ดาวดิน หรือ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา นักกิจกรรมหรือนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม ผู้อยู่ข้างชนอีสานที่ถูกตรึงด้วยกฎหมายและสู้ทนกับอำนาจรัฐ ไม่ว่าจะอย่างไร 870 วัน หรือ 2 ปี 5 เดือน 7 วัน ที่ผ่านมา ไผ่ ดาวดิน ก็ได้ตกเป็นผู้ต้องหา ในคดีความผิดมาตรา 112 จากการแชร์ข่าว ของเว็บไซต์แห่งหนึ่ง แม้นว่าจะมีเสียงท้วงติงและคำถามจากประชาชนว่า สิ่งที่ตีตรานั้นสมควรหรือไม่
เช่นเดียวกับพ่อของเขา วิบูลย์ บุญภัทรรักษา ทีเล่าถึงคดีนี้ว่า “เรื่องนี้ไม่ใช่อุทาหรณ์ กรณีของไผ่มันไม่ได้ผิดและสำนักข่าวก็ไม่ได้ผิด สิ่งที่เป็นอุทาหรณ์คือกระบวนการยุติธรรมที่ควรคะนึงถึงการใช้ดุลยพินิจของกฎหมาย” คล้อยเสียงดุดันของพ่อ ไผ่ ดาวดิน ที่เปล่งออกมาในคราที่รอรับบุตรชายที่หน้ากำแพงสูงและกรงเหล็ก
ก่อนที่ผู้เป็นแม่จะขอระบายออกบ้าง “การใช้กฎหมายไม่ควรเลือกปฎิบัติ เรารู้มันยากเพราะเขาเองคือทหาร” เสียงหนักแน่นที่แม่ไผ่ เปรยออกมาอาจจะด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจหรือการปลงต่อการต่อสู้ แต่กระนั้นก็เถอะด้วยเลือดของนักกฎหมาย เธอยังเล่าต่อว่า “เราร้องทุกข์ไปก็เสมือนเปล่า ตราบใดที่กระบวนการยุติธรรมมันเป็นแบบนี้”
“แต่เราเอาแน่ยังไงเสีย การเอาผิดต่อผู้กล่าวหาไผ่ มันก็ต้องดำเนินไป” พ่อไผ่ กล่าวเสรืมพร้อมเน้นเสียงย้ำชัดต่อสิ่งที่เขาเพรียกหา มันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายเมื่อในยุคนี้กลุ่มคนที่กุมอำนาจมันไม่ใช่อำนาจบริสุทธิ์
“วันนี้ผมมาในฐานะ 'เพื่อน' เราสู้ด้วยกันมามาก และผมเชื่อว่าเพื่อนคนนี้จะออกมาเคลื่อนไหวในสิ่งที่ถูกต้องตามอุดมการณ์เขา” ว่าที่ ส.ส.จากพรรคอนาคตใหม่ รังสิมันต์ โรม ที่ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยถูกจองจำในเรือนสายบัวในคดีประท้วงหน้าหอศิลป์
“ผมจะไม่ห้ามเขา ถ้าเขาได้ตัดสินใจ แต่ผมคิดว่าอะไรที่มันจะดำเนินต่อเราต้องพูดคุยกันอีกที” โรม บอกเล่าถึงความห่วงใยเพื่อนคนนี้ การกระชับมือแน่นของคนสอง ทั้งโรมและไผ่นั้นคือภาพของเพื่อนที่เฝ้ารอเพื่อนในวันที่เขากลับสู่อิสรภาพ ไม่มีเสียงไม่มีการเอ่ยมีเพียงการกอดคอและพยักหน้าให้กัน เป็นอันรู้กันว่า "ยินดีเพื่อนที่ได้เจอกันอีกครั้ง"
“สักวันหนึ่งเราจะกลับมาพบกันเพื่อนรัก คงไม่นานนักถ้าตีนยังเหยียบย่ำอยู่บนดิน” บทเพลง “ฝากรักถึงเจ้าผีเสื้อ” ของวงสามัญชน ที่เหล่าดาวดิน คนหนุ่มสาวที่เคียงบ่าเคียงไหล่กับไผ่ เปล่งเสียงออกมาท่ามกลางสายตากว่าร้อยคู่ที่เฝ้ามองพวกเขารอรับเพื่อน
“มาๆ ถ่ายรูปกัน” ไผ่ ชายหนุ่มผู้พลัดพรากจากอิสรภาพไปกว่าสองปี ได้เอ่ยชวนผู้คนที่มาเฝ้ารอเขา ไม่ว่าจะเป็นแค่วันนี้หรือในห้วงอายุร่วม 30 ฝนของเขา
ก่อนกล่าวเพียงสั้นๆว่า “ผมมันแค่คนธรรมดา ไม่ได้วิเศษกว่าใคร ทุกคนมีวิถีการต่อสู้ของตัวเอง มันคือเรื่องปกติที่เราต่อสู้กับอำนาจแล้วจะถูกดำเนินคดี ส่วนการเมืองนั้นถึงเราไม่เล่น การเมืองก็เล่นเราอยู่ดี”
นั่นคือ จุตภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน