สิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เดินทางเข้ายื่นเรื่องให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ตรวจสอบพรรคเพื่อไทย กรณีมีมติพรรคให้ยื่นถอดถอนตน

โดยก่อนหน้านี้พรรคร่วมฝ่ายค้านพยายามยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยคุณสมบัติการเป็น ส.ส.ของสิระ กรณีเคยถูกศาลแขวงปทุมวันพิพากษาลงโทษจำคุก 4 เดือน ในคดีฉ้อโกง 

แต่ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องที่ประธานรัฐสภาส่งไป เนื่องจากมี ส.ส.พรรคเพื่อไทย 2 คน ถอนชื่อออกทำให้มี ส.ส.ลงชื่อไม่ครบตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ที่กำหนดให้ ส.ส. ร่วมลงชื่อไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบหรือประมาณ 49 คน 

สิระ กล่าวว่า ที่มายื่น กกต.วันนี้ มีเพื่อนส.ส. จากพรรคเพื่อไทยซึ่งตนรู้จักหลายคน ต้องการให้ตนมายื่นยุบพรรคเพื่อไทยเองด้วย เพื่อที่จะได้มีอิสระในการย้ายพรรค หากพรรคเพื่อไทยถูกยุบ เพราะเพียงแค่ตนออกมาพูดว่า "มีหมาเน่าในพรรคเพื่อไทย" ส.ส.เพื่อไทยก็เตรียมกระโดดออกมาเยอะแล้ว

ที่สำคัญมี ส.ส.หญิง ซึ่งออกมาให้ข่าวว่าพรรคเพื่อไทยมีมติพรรคให้ถอดถอนตนนั้นชอบหรือไม่เป็นเรื่องของ กกต.ที่จะพิจารณา แต่ตนเห็นว่า หากไม่ใช่มติพรรคก็แปลว่าเป็นการโกหกประชาชน และแม้เป็นมติพรรคเพื่อไทยจริง ก็จะต้องย้ำถึงเอกสิทธิ์และอิสระจนอง ส.ส.ที่ไม่จำเป็นต้องทำตามมติพรรคก็ได้ 

โดยวันนี้ตนนำหลักฐานต่างๆทั้งคลิปวิดีโอและรายชื่อ ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่ให้สัมภาษณ์และให้ความเห็นต่อเรื่องที่เกิดขึ้น มายื่นให้ กกต. ด้วย ซึ่ง กกต.จะต้องเลือก ส.ส.ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนด้วยเช่นกัน  

โดยหวังว่ากรณีนี้จะเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่จะมีพรรคการเมืองถูกตรวจสอบว่าการยื่นถอดถอน ส.ส.พรรคอื่นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

สิระ ยังตั้งข้อสังเกตไว้ว่า สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่ได้มีบทบาทหรือศักยภาพในการเป็นผู้นำฝ่ายค้าน และน่าจะมีบุคคลภายนอก มาคอยขบี้นำหรือครอบงำฝ่ายค้านด้วย เพราะมี ส.ส.พรรคเพื่อไทยเองกล่าวหาว่า ส.ส. 2 ที่ถอนชื่อในการยื่นถอดถอนตน และด่าประณามด้วยถ้อยคำรุนแรง แต่สมพงษ์ ก็ไม่ห้ามปรามหรือดำเนินการอะไร

ส่วนคดีความของตนในอดีตและที่ฝ่ายค้านอ้างมายื่นถอดถอนนั้น ตนพร้อมให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ