นายกรัฐมนตรี 'เหงียน ซวน ฟุก' ได้กล่าวต่อที่ประชุมเจ้าหน้าที่รัฐบาลระบุว่า จำเป็นต้องระดมกำลังทั้งหมดเข้าควบคุมจุดศูนย์กลางการระบาดของโรคทั้งหมดที่รับรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองดานัง ซึ่งเป็นเมืองที่พบผู้ติดโควิด-19 เมื่อไม่นานมานี้ โดยต้นเดือน ส.ค. จะเป็นช่วงเวลาชี้ขาดสำหรับการหยุดยั้งไม่ให้ไวรัสระบาดหนักเป็นวงกว้าง
นอกจากนี้ผู้นำเวียดนามยังระบุว่าการระบาดระลอกนี้อาจส่งผลกระทบที่สำคัญกว่าระลอกก่อนหน้า พร้อมสั่งการเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการทั้งควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสและรักษาการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า การระบาดของโควิด-19 ที่เริ่มขึ้นในเมืองดานังเมื่อกว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้แพร่กระจายไปในโรงงานอย่างน้อย 4 แห่งในเมืองดานัง ซึ่งมีคนงานรวมกันประมาณ 3,700 คน มีรายงานพบผู้ติดเชื้อแล้ว 4 รายที่โรงงานเหล่านี้ซึ่งไม่ได้ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมแห่งเดียวกัน โดยในจำนวนนี้มีโรงงาน 1 แห่งที่ระงับการดำเนินการไปแล้ว
ก่อนหน้านี้ เวียดนามได้รับเสียงชื่นชมจากการใช้าตรการเด็ดขาดต่อสู้กับโควิด-19 นับตั้งแต่พบการติดเชื้อครั้งแรกเมื่อช่วงปลายเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่การพบผู้ติดเชื้อในเมืองดานังซึ่งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ ถือเป็นการพบการติดเชื้อในท้องถิ่นครั้งแรกในรอบกว่า 3 เดือน แม้ยังไม่ชัดเจนถึงแหล่งที่มาของการระบาดครั้งใหม่นี้ แต่การระบาดก็ได้ขยายไปในพื้นที่อื่นๆ อีกอย่างน้อย 10 แห่ง ซึ่งรวมถึงกรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์
โดยวันที่ 3 ส.ค. 2563 มีรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเวียดนาม 1 รายที่เกี่ยวข้องกับเมืองดานัง ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในเวียดนามอยู่ที่ 621 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 แล้ว 6 ราย หลังมีรายงานพบผู้เสียชีวิตรายแรกในเวียดนามเมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เวียดนามได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อไปแล้ว 52,000 รายในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ส่วนเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ทางการเมืองดานังระบุว่า มีแผนจะตรวจหาเชื้อประชากรเมืองดานังทั้ง 1.1 ล้านคน เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ขณะเดียวกันก็ได้มีการประกาศล็อกดาวน์เมื่อดานังเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ปิดทั้งสถานบันเทิง รวมถึงห้ามการเคลื่อนย้ายเข้าและออกจากเมือง
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมาทางการเวียดนามเผยว่า สายพันธุ์ของไวรัสที่พบในเมืองดานังนั้นแพร่เชื้อได้ง่ายกว่า โดยผู้ติดเชื้อแต่ละรายสามารถแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้อีก 5-6 คน ขณะที่ช่วงเวลาก่อนหน้านี้ ผู้ติดเชื้อ 1 ราย สามารถแพร่เชื้อให้คนรอบข้างได้ 1.8-2.2 คน แต่ยังไม่มีการยืนยันว่า มีความรุนแรงกว่าสายพันธุ์ที่พบก่อนหน้าหรือไม่
อ้างอิง The Straits Times / Reuters / VnExpress